THAILAND
อยู่บ้าน สามารถใช้งาน Wi-Fi แบบไหนได้บ้าง !
ในปัจจุบันโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ทำให้ Internet เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์มากขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ออฟฟิต ห้าง สวนสาธารณะ รถไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งที่บ้าน คุณก็ยังจำเป็นต้องใช้ Internet แต่คุณจะรู้ไหมว่าการใช้งาน Internet แบบไหนเหมาะสมกับสถานที่ไหน หากคุณจำเป็นจะต้องใช้งาน Wi-Fiที่บ้าน คุณควรเลือก Wi-FI แบบไหน มาดูกันคร๊าบบบบ
Wi-Fi สำหรับใช้งานที่บ้านมีแบบไหนบ้าง ?
1.เราเตอร์ Wi-Fi ไร้สาย
เราเตอร์ Wi-Fi แบบไร้สายเป็นอุปกรณ์รูปแบบหนึ่งที่คนส่วนใหญ่เลือกมาใช้งานที่บ้าน เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่สามารถปล่อยสัญญาณInternet ได้ค่อนข้างทั่วถึงและสามารถเชื่อมต่อได้หลายเครื่อง ไม่จำเป็นต้องยกไปมาให้วุ่นวายอีกด้วย แต่คุณต้องเลือกการวางเราเตอร์Wi-Fiให้เหมาะสมกับแผนผังของบ้านและบริเวณการใช้งาน เพื่อที่จะให้คุณหมดปัญหาในการใช้งาน
ข้อดี
ข้อดีของการใช้เราเตอร์ Wi-Fi ที่บ้านคือคุณสามารถใช้งานได้เพียงแค่เชื่อมต่อทำให้คุณไม่จำเป็นต้องทำการตั้งค่าที่ยุ่งยาก และยังเชื่อมต่อเพียงแค่ครั้งแรก โดยครั้งต่อไปอุปกรณ์จะเชื่อมต่ออัตโนมัติ นอกจากนี้ยังไม่มีข้อ จำกัด ค่าธรรมเนียมการใช้งานรายเดือนดังนั้นคุณสามารถใช้ Wi-Fi ได้อย่างง่ายดาย
ข้อเสีย
หากคุณเลือกเราเตอร์ Wi-Fi ที่ไม่เหมาะกับแผนผังบ้านของคุณ ทำให้คุณจะไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเสถียรได้เนื่องจากคลื่นสัญญาณอ่อน นอกจากนี้คุณไม่สามารถใช้งานกับเราเตอร์ Wi-Fi นี้ได้หากคุณต้องออกไปข้างนอก เพราะเราเตอร์Wi-Fi นี้จะใช้งานได้ในบริเวณบ้านเท่านั้น ไม่เหมาะที่จะยกเคลื่อนย้ายไปมา
2.Mobile Wi-Fi
Mobile Wi-Fi เป็นอุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ Internet ขนาดเล็กที่สามารถเปลี่ยนสัญญาณ 3G และ 4G ให้กลายเป็นสัญญาณไวไฟส่วนตัวได้ เชื่อมต่อสัญญาณ Internet ได้หลากหลายอุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน และยังสามารถพกพาสะดวก ไปได้ทุกที่ ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ทั้งที่บ้านและออกไปข้างนอก
ข้อดี
ข้อดีของ Mobile Wi-Fi คือคุณสามารถรับรู้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ทุกที่ พกพาง่าย สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้หลากหลายอุปกรณ์ทั้งมือถือและโน๊ตบุ๊ค หากคุณเลือกแพคเกตที่ไม่จำกัดปริมาณความเร็วยิ่งทำให้การใช้งาน Wi-Fi ของคุณมีความเสถียรมากขึ้น และเป็นอุปกรณ์ที่ปล่อยสัญญาณ Internetส่วนตัว ทำให้คุณปลอดภัยในการถูกละเมิดข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ หากคุณจำเป็นต้องออกไปใช้งานนอกบ้าน
ข้อเสีย
เนื่องจาก Mobile Wi-Fi เป็นอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ หากคุณต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จำนวนมากพร้อมกัน ทำให้ปริมาณแบตเตอร์รี่ของ Mobile Wi-Fi อาจหมดเร็วกว่าปกติ ทำให้คุณต้องเจอปัญหาแบตเตอรี่หมดในขณะใช้งานได้ ดังนั้นคุณจึงต้องวางแผนการใช้งานแบตเตอรี่ให้ดี หรือหาสถานที่ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ นอกจากนี้หากคุณพกพาไปใช้งานนอกบ้านหรืออยู่ในสถานที่อับสัญญาณ อาจทำให้คุณไม่สามารถใช้งานได้
3.Wi-Fi แบบเสียบสายสัญญาณ
คือการเชื่อมต่อสัญญาณ Internet จากตัวปล่อยสัญญาณกับตัวรับสัญญาณ(อุปกรณ์ที่คุณใช้งาน)ผ่านสายสัญญาณ โดยการนำเต้าเสียบของสายฝั่งหนึ่งเสียบกับตัวปล่อยสัญญาณและเต้าเสียบของสายอีกฝั่งหนึ่งเสียบกับอุปกรณ์ที่คุณใช้งาน โดยสัญญาณไวไฟจะเดินทางผ่านสายที่เชื่อมต่อกัน
ข้อดี
ขั้นตอนการเชื่อมต่อที่ไม่ยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใดๆ เพียงแค่เสียบสายเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าด้วยกัน คุณก็สามารถใช้งานได้แล้ว การใช้งานผ่านสายแบบนี้ทำให้สัญญาณอินเตอร์เน็ตมีความเสถียรมากขึ้น ทำให้การใช้งานของคุณจึงไม่สะดุด
ข้อเสีย
เนื่องจากการใช้งานแบบนี้ต้องใช้สายสัญญาณในการเชื่อมต่อกันของอุปกรณ์ จึงทำให้ต้องจำกัดสถานที่ในการใช้งาน และไม่สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้หลายเครื่อง จึงไม่เหมาะกับการทำงานที่ต้องใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตพร้อมกันหลายอุปกรณ์
> ใช้งาน Wi-Fi ที่บ้านแนะนำให้ใช้ Skyberry <
Skyberry เป็น Mobile Wi-Fi ที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับการใช้งานในขณะอยู่บ้าน ด้วยจุดเด่นมากมาย อาทิ รองรับการสื่อสารความเร็วสูง 4G LTE ใช้งานง่าย เชื่อมต่อเพียงแค่ครั้งแรกหลังจากนั้นเมื่อเปิดใช้งานครั้งต่อไป เครื่องจะเชื่อมต่ออัตโนมัติทำให้ไม่ยุ่งยากในการใช้งาน สามารถเชื่อมต่อได้มากถึง 5 อุปกรณ์พร้อมกัน และยังใช้งานได้ทุกสถานที่ ไม่ว่าคุณจะอยู่บ้านหรือต้องออกไปข้างนอกก็ยังพกพาไปได้ตลอดเวลา เพราะ Skyberry มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด เทียบเท่ากับคุณพกพามือถือหนึ่งเครื่อง นอกจากนี้แบตเตอรี่ของ Skyberry ถูกออกแบบมาด้วยความจุขนาดใหญ่ 3,500 mAh จึงสามารถให้คุณใช้งานได้สูงสุดถึง 13 ชั่วโมง จึงเพียงพอการที่ใช้งานในแต่ละครั้ง และสิ่งสำคัญ Skyberry เปรียบเสมือน W-Fi ส่วนตัว ทำให้คุณความปลอดภัยในการใช้งาน หมดกังวลในการโดนละเมิดข้อมูล
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและจอง Skyberry ได้ที่