THAILAND
" ไปทะเลก็ไปกับเขา งั้นรอบนี้ขึ้นเขาไปดูหมอกกับเรานะ "
ถึงเวลาของการท่องเที่ยวในเมืองไทยอีกช่วงหนึ่งที่ Hot สวนทางกับอากาศบ้านเรานิดนึง ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน จนถึงประมาณช่วงต้นปี หลายๆคนจะชอบอากาศบ้านเราในช่วงนี้มาก เพราะเราจะได้สัมผัสกับความหนาวกับเขาสักหน่อย ช่วงนี้หลายคนวางแผนที่จะไปตั้งแคมป์ หรือ เข้าพักกับรีสอร์ท หรือ โรงแรมที่อยู่ติดกับธรรมชาติค่อนข้างมากเพื่อหวังว่าจะได้สัมผัสอากาศหนาวและดูทะเลหมอกหรือชมแสงแรกของแต่ละวัน
วันนี้เรามาแนะนำสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปดูทะเลหมอกมาฝากกันค่ะ
ภูทับเบิก
ที่นี่ตั้งอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ คือหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ไกลจากรุงเทพมากนัก เราสามารถขับรถส่วนตัวไปที่นี่ได้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไร่กะหล่ำปลี ที่ปลูกไว้บนภูเขา กลายเป็นภาพของที่นี่ ที่ทำให้เราต้องเดาเป็นอันดับแรกว่า ที่นี่คือ ภูทับเบิก
เขาค้อ
ที่นี่ตั้งอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ เหมือนกันค่ะ อีกหนึ่งสถานที่ที่ยอดฮิตไม่แพ้ภูทับเบิก เพราะระยะทางของทั้งสองสถานที่ทั้งสองนี้ไม่ไกลกัน บางคนเลือกที่จะพักที่ภูทับเบิก หนึ่งคืน อีกหนึ่งคืน ย้ายมาพักที่เขาค้อ บรรยากาศตอนกลางคืนเหมาะกับการกินหมูกระทะมากกก ตอนนี้กลายเป็นกิจกรรมยอดฮิตไปแล้วจ้า
ภูเรือ
ที่นี่ตั้งอยู่ที่ จ. เลย ค่ะ การเดินทางไปที่ค่อนข้างง่าย ไม่ต้องขับรถขึ้นภูเขาสูงมาก ก็สามารถชมทะเลหมอกยามเช้าได้แล้ว ที่ยังเปิดให้เราสามารถกางเต๊นท์นอนได้ด้วยนะคะ บรรยากาศตอนกลางคืนรับรองหนาวถึงใจไม่แพ้กันค่ะ ตื่ยเช้ามาเจอทะเลหมอกอีกบอกเลยว่า ฟินมากๆ
ภูกระดึง
ที่นี่ตั้งอยู่ที่ จ. เลย สำหรับใครที่รักการเดินเขา ต้องลองไปที่นี่ค่ะ เพราะจะต้องเดินขึ้นไปยังอุทยานด้วยพละกำลังขาที่เรามีด้วยตัวเองจ้า แต่บอกเลยว่าเมื่อทำสำเร็จแล้วคุ้มค่ามากๆค่ะ เพราะอากาศที่นี่จะดีมากๆที่นึงเลยค่ะ ตอนกลางคืนบางทีเราจะได้สัมผัสกับอุณภูมิ ต่ำกว่า 10 องศา ค่ะ ตอนเช้าเราสามารถไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกได้ที่ “ผานกแอ่น” หากใครอยากโรแมนติกก็สามารถไปชมพระอาทิตย์ตกได้ที่ ” ผาหล่มสัก “
ภูชี้ฟ้า
ที่นี่ตั้งอยู่ใน จ.เชียงราย หากพูดถึงสถานที่ที่มีทะเลหมอกที่เราจะต้องไป ภูชี้ฟ้าคือ 1 ในนั้นค่ะ บรรยากาศทะเลหมอกของที่นี่สวยงามมากเลยค่ะ ช่วงหน้าหนาวจะมีนักท่องเที่ยวจองตั๋วขึ้นไปท่องเที่ยวที่นี่ค่อนข้างมากเลยค่ะ
