![](https://www.skyberry.biz/wp/wp-content/uploads/2018/07/flag_japan.png)
JAPAN
วาเลนไทน์สไตล์ญี่ปุ่น: เทศกาลแห่งความรักที่มาคู่กับช็อคโกแลต
เมื่อพูดถึงวันวาเลนไทน์ หลายคนอาจนึกถึงดอกกุหลาบ การ์ดแสดงความรัก และของขวัญสุดพิเศษ แต่หากพูดถึง วาเลนไทน์ในญี่ปุ่น สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่นึกถึงก็คือ “ช็อกโกแลต” ซึ่งทำให้เทศกาลวาเลนไทน์ของญี่ปุ่นถูกหลอมรวมให้เข้ากับวัฒนธรรมของญี่ปุ่นจนมีความเฉพาะตัวที่ทำให้แตกต่างจากเทศกาลวาเลนไทน์ของประเทศตะวันตกอย่างสิ้นเชิง
วันวาเลนไทน์ของญี่ปุ่นเริ่มต้นจากการตลาดของบริษัทขนมหวาน จนกลายเป็นธรรมเนียมที่ฝังรากลึกในสังคมญี่ปุ่น ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายมอบช็อกโกแลตให้ผู้ชาย และแบ่งประเภทของช็อกโกแลตตามความสัมพันธ์ แม้ว่าธรรมเนียมนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่วันวาเลนไทน์ในญี่ปุ่นยังคงเป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและสีสันของวัฒนธรรม ไม่ว่าคุณจะเป็นคนมีคู่หรือโสด ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเทศกาลนี้ได้ไม่แพ้กัน!
________________________________________
ต้นกำเนิดวันวาเลนไทน์ในญี่ปุ่น
เดิมที วันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) มีต้นกำเนิดจาก เซนต์วาเลนไทน์ นักบุญชาวโรมันที่ถูกประหารชีวิตเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 269 เนื่องจากแอบทำพิธีแต่งงานให้กับทหารที่จักรพรรดิโรมันสั่งห้ามแต่งงาน ด้วยเหตุผลว่าชายหนุ่มที่ไม่มีภาระครอบครัวจะเป็นทหารที่เข้มแข็งกว่า วัฒนธรรมนี้ได้แพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงยุโรปและอเมริกา ที่ซึ่งคู่รักมักจะให้ของขวัญกันในวันนี้
ญี่ปุ่นเองเริ่มรู้จักวันวาเลนไทน์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ผ่านการค้ากับชาวตะวันตก อย่างไรก็ตาม ธรรมเนียมการให้ช็อกโกแลตเกิดขึ้นในช่วงปี 1950 โดยบริษัทผลิตขนมหวานของญี่ปุ่น โดยธรรมเนียมการให้ช็อกโกแลตเริ่มต้นจาก บริษัทขนม “Morozoff” ซึ่งเป็นบริษัทลูกครึ่งญี่ปุ่น-รัสเซีย ที่เริ่มโปรโมตวันวาเลนไทน์ในช่วงปี 1936 ผ่านการโฆษณาช็อกโกแลตให้เป็นของขวัญพิเศษ อย่างไรก็ตาม วันวาเลนไทน์ยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในช่วงแรก
ช่วงปี 1950 บริษัทขนมญี่ปุ่นหลายแห่ง เช่น Mary’s Chocolate และ Morinaga ได้จัดแคมเปญโฆษณา โดยชูแนวคิดว่า “วันวาเลนไทน์เป็นวันที่ผู้หญิงควรให้ช็อกโกแลตกับผู้ชาย” ซึ่งต่างจากตะวันตกที่มักเป็นฝ่ายชายมอบของให้ผู้หญิง เหตุผลที่การให้ช็อกโกแลตกลายเป็นธรรมเนียมสำคัญนั้นมาจาก การตลาดที่เจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิง โดยเชื่อว่าการให้ช็อกโกแลตเป็นวิธีแสดงความรู้สึกที่ง่ายและไม่ต้องใช้คำพูด ซึ่งได้รับความนิยมและกลายเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบัน
________________________________________
ประเภทของช็อกโกแลตวันวาเลนไทน์
สิ่งที่ทำให้วันวาเลนไทน์ในญี่ปุ่นแตกต่างจากที่อื่นคือ การแบ่งประเภทของช็อกโกแลต ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้และผู้รับ โดยหลักๆ แล้วมี 4 ประเภท ดังนี้:
🍫ฮงเมช็อกโก (本命チョコ, Honmei Choco) – ช็อกโกแลตสำหรับคนรัก
ช็อกโกแลตชนิดนี้มีความหมายลึกซึ้งและใช้มอบให้กับ แฟน คู่รัก หรือคนที่ผู้หญิงมีความรู้สึกพิเศษด้วย มักเป็นช็อกโกแลตทำมือหรือช็อกโกแลตระดับพรีเมียม เพื่อแสดงถึงความตั้งใจและความรักที่จริงจัง
🍫กิริช็อกโก (義理チョコ, Giri Choco) – ช็อกโกแลตตามมารยาท
คำว่า “義理 (Giri)” แปลว่า “มารยาท” หรือ “หน้าที่” ช็อกโกแลตประเภทนี้จึงถูกมอบให้กับ เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือคนรู้จักที่ไม่ใช่คนรัก เป็นเพียงการแสดงน้ำใจและความขอบคุณเท่านั้น โดยมักเป็นช็อกโกแลตราคาย่อมเยา
🍫โทโมะช็อกโก (友チョコ, Tomo Choco) – ช็อกโกแลตสำหรับเพื่อน
“友 (Tomo)” หมายถึง “เพื่อน” ช็อกโกแลตประเภทนี้เป็นของขวัญที่ เพื่อนหญิงมอบให้กันเอง เพื่อแสดงถึงมิตรภาพ มักเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นหรือเด็กนักเรียน
🍫จิโกะช็อกโก (自己チョコ, Jiko Choco) – ช็อกโกแลตเพื่อตัวเอง
เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยผู้หญิงซื้อช็อกโกแลตคุณภาพดีให้ตัวเอง เพราะถือเป็นการให้รางวัลตัวเองในวันพิเศษ
________________________________________
วันวาเลนไทน์ในปัจจุบัน
ปัจจุบัน วาเลนไทน์ในญี่ปุ่นไม่ได้จำกัดอยู่แค่การให้ช็อกโกแลตอีกต่อไป ร้านค้าต่างๆ มีการออกสินค้าเฉพาะช่วงวาเลนไทน์ ทั้งขนมหวาน เครื่องประดับ และสินค้าแฟชั่น เทศกาลนี้กลายเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจมากมาย นอกจากนี้ เทรนด์การให้ช็อกโกแลตก็เปลี่ยนแปลงไป ผู้หญิงเริ่มให้ความสำคัญกับการให้ช็อกโกแลตเพื่อตัวเอง และบางคนเลือกที่จะฉลองวันวาเลนไทน์กับเพื่อนฝูงมากกว่าคู่รัก ทำให้วาเลนไทน์ในญี่ปุ่นกลายเป็นวันที่เปิดกว้างมากขึ้น
________________________________________
จุดหมายยอดฮิตของคู่รัก
หากคุณมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศโรแมนติกที่อบอวลไปทั่วเมือง ตั้งแต่ร้านค้าต่างๆ ที่ตกแต่งด้วยธีมสีชมพูและแดง ไปจนถึงจุดถ่ายรูปยอดฮิตที่เต็มไปด้วยคู่รักที่มาร่วมฉลองวันพิเศษนี้ สำหรับสถานที่ที่เหมาะกับการฉลองวาเลนไทน์ในญี่ปุ่น มีตัวเลือกมากมายที่ได้รับความนิยม เช่น
📍โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) & โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)
แลนด์มาร์กสำคัญของโตเกียวที่หลายคู่รักนิยมไปชมวิวเมืองยามค่ำคืน ในช่วงวาเลนไทน์ หอคอยทั้งสองแห่งจะเปิดไฟไลท์อัพสีพิเศษ บางปีอาจมีธีมรูปหัวใจหรือสีชมพูที่เพิ่มความโรแมนติกเป็นพิเศษ
📍เกาะเอโนะชิมะ (Enoshima, Kanagawa)
สถานที่ท่องเที่ยวริมทะเลที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติก นอกจากวิวสวยๆ แล้ว ยังมี Enoshima Sea Candle หรือหอชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสุดโรแมนติกได้ในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน
📍Kamigamo Shrine ศาลเจ้าชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความรัก (Kamigamo Shrine, Kyoto)
สำหรับคนที่อยากขอพรเรื่องความรัก ศาลเจ้าคะมิกาโมะ (Kamigamo Shrine) ในเกียวโต ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนญี่ปุ่นนิยมไปขอพรให้ความรักสมหวังในช่วงวาเลนไทน์
📍ออนเซ็นโรแมนติกที่ฮาโกเนะ (Hakone, Kanagawa)
การไปเที่ยวออนเซ็นกับคนรักถือเป็นอีกกิจกรรมยอดฮิตในวันวาเลนไทน์ ฮาโกเนะมีที่พักพร้อมบ่อออนเซ็นส่วนตัว ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเงียบสงบและวิวภูเขาไฟฟูจิไปพร้อมๆ กัน
📍เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival, Hokkaido)
หากคุณอยากสัมผัสวาเลนไทน์ท่ามกลางหิมะ เทศกาลหิมะซัปโปโรในฮอกไกโดคือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ งานนี้จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีการจัดแสดงประติมากรรมหิมะขนาดยักษ์ พร้อมแสงไฟสุดโรแมนติกในยามค่ำคืน
________________________________________
ใช้ Nihon SIM สัมผัสวาเลนไทน์ในญี่ปุ่นแบบไม่มีสะดุด ให้ Nihon SIM เป็นตัวช่วยของคุณ!
หากคุณต้องการไปเยือนญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลแห่งความรักที่มีบรรยากาศแสนโรแมนติกนี้ ไม่ว่าจะเป็น โตเกียวทาวเวอร์สุดโรแมนติก ออนเซ็นอุ่นๆ ที่ฮาโกเนะ หรือเทศกาลหิมะสุดตระการตาที่ซัปโปโร สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ อินเทอร์เน็ตที่เสถียรและใช้งานได้ทุกที่
Nihon SIM ซิมเน็ตจากเครือข่ายใหญ่ในญี่ปุ่น ให้คุณเชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้ลื่นไหล ไม่ว่าจะอยู่ในเมือง บนภูเขา หรือแม้แต่ริมทะเล ก็หมดกังวลเรื่องสัญญาณขาดหายได้เลย มาทำให้การเดินทางของในครั้งนี้พิเศษยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะค้นหาข้อมูล แชร์รูปบรรยากาศสวยๆ หรือแม้แต่ใช้แผนที่นำทางไปยังจุดหมายสุดโรแมนติก ก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีสะดุด
📍 พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์วาเลนไทน์ในญี่ปุ่นแบบไร้กังวล กับ Nihon SIM ได้แล้ววันนี้! 💕