JAPAN
ดอกอาจิไซ สัญลักษณ์ประจำฤดูฝนของญี่ปุ่น
หากพูดถึงฤดูกาลในญี่ปุ่นแล้ว ทุกคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าฤดูกาลในญี่ปุ่นนั้นมีอยู่ 4 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง แม้ฤดูกาลใหญ่ ๆ จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ฤดูกาล แต่จริง ๆ แล้ว ในญี่ปุ่นยังมีช่วงที่ถูกเรียกว่า “สึยุ” (梅雨) ที่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นฤดูฝนของญี่ปุ่นก็ว่าได้ ซึ่งช่วงเวลาจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือน 5 ไปจนถึงประมาณต้นหรือกลางเดือน 7 ซึ่งในช่วงนี้ท้องฟ้าอาจครึ้มฝนและมีอากาศชื้นเป็นประจำ แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว นี่คือฤดูแห่งความงามที่แฝงความสดชื่นไว้ด้วยดอกไม้ที่เปล่งประกายท่ามกลางสายฝน นั่นก็คือช่วงที่ดอกอาจิไซ (あじさい) หรือดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่งไปทั่วประเทศนั่นเอง โดยในครั้งนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับประวัติและความหมายของดอกไม้ชนิดนี้ พร้อมแนะนำสถานที่ชมดอกอาจิไซยอดนิยมจากทั่วประเทศให้ได้รู้จักกัน
ประวัติความเป็นมาของดอกอาจิไซในญี่ปุ่น
ดอกอาจิไซเป็นไม้ดอกพื้นเมืองของญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานย้อนกลับไปถึงสมัยนาระ (ค.ศ. 710–794) โดยในยุคนั้นเริ่มปรากฏในบทกวีและเอกสารต่าง ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมที่มีต่อดอกไม้ชนิดนี้มาแต่โบราณ ในสมัยเฮอัน (ค.ศ. 794–1185) ดอกอาจิไซมักปลูกตามวัดวาอาราม และในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603–1868) เริ่มมีการพัฒนาและเพาะพันธุ์เพื่อความงามมากยิ่งขึ้น
ดอกอาจิไซมีมากกว่า 50 สายพันธุ์ในญี่ปุ่น ทั้งสายพันธุ์พื้นเมือง เช่น ยามะอาจิไซ (山あじさい) ที่มีดอกเล็กละเอียด ไปจนถึงสายพันธุ์ใหญ่ เช่น กาคุอาจิไซ และเอโซะอาจิไซ ที่มีดอกใหญ่ อีกทั้งสีสันของดอกยังเปลี่ยนไปตามความเป็นกรด-ด่างของดิน โดยดอกที่มีสีฟ้าหรือม่วงจะปรากฎให้เห็นในพื้นที่ที่ดินเป็นกรด และสีชมพูในดินที่เป็นด่าง ทำให้แต่ละพื้นที่นั้นมีดอกอาจิไซที่มีเฉดสีที่แตกต่างกัน
แนะนำสถานที่ชมอาจิไซสุดงดงามทั่วญี่ปุ่น
〔วัดเมเกะทสึอิน〕
วัดที่ได้รับฉายาว่า “วัดอาจิไซ” แห่งคามาคุระ มีต้นอาจิไซกว่า 2,500 ต้น ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์สีฟ้าสดใส เมื่อดอกบานพร้อมกันในช่วงเดือนมิถุนายน จะกลายเป็นทะเลสีฟ้าอันเงียบสงบท่ามกลางบรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ
〔วัดมิมูโระโทจิ〕
หนึ่งใน “25 วัดแห่งดอกไม้” ของคันไซ มีอาจิไซกว่า 10,000 ต้นจาก 50 สายพันธุ์ บานสะพรั่งทั่ววัดช่วงต้นฤดูฝน ไฮไลต์คือการตามหาดอกอาจิไซรูปหัวใจ และช่วงกลางคืนยังมีการจัดไลต์อัปที่โรแมนติกสุด ๆ
〔ถนนอาจิไซ〕
ถนนสายพิเศษในฟุกุชิมะที่เรียงรายไปด้วยต้นอาจิไซกว่าหมื่นต้นตลอดสองข้างทาง ทำให้สามารถชมวิวอันสวยงามจากดอกอาจิไซได้ทั้งจากในรถและการเดินเล่นในหมู่บ้านเล็ก ๆ พร้อมสูดกลิ่นอายธรรมชาติของภูมิภาคโทโฮคุ
〔สวนมิจิโนคุ อาจิไซ〕
สวนอาจิไซขนาดใหญ่ที่มีต้นอาจิไซมากถึง 40,000 ต้น โดยในปี 2025 คาดว่าจะบานเต็มที่ช่วง 25 มิถุนายน ถึง 21 กรกฎาคม
〔สวนอุเอะโนะ〕
แม้เป็นสวนกลางเมืองใหญ่ แต่ช่วงฤดูฝนที่นี่ก็มีอาจิไซบานเต็มพื้นที่ใกล้พิพิธภัณฑ์และสระน้ำ เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเดินทางไกลแต่ก็อยากสัมผัสสีสันแห่งฤดูฝน
〔ศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังกุ〕
มีทางเดินที่เรียงรายด้วยอาจิไซหลากสี รวมถึงการจัดแสดงดอกในถังไม้ทรงดั้งเดิม เสริมบรรยากาศเกียวโตโบราณให้ชัดเจน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมดอกอาจิไซ
ดอกอาจิไซมักเริ่มบานตั้งแต่ต้นถึงกลางเดือนมิถุนายน และบานเต็มที่ประมาณปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นกรกฎาคม แต่เวลาที่แน่นอนจะแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ซึ่งการชมอาจิไซในช่วงฤดูฝนจะสวยงามที่สุดเมื่อฝนโปรยเบา ๆ เพราะละอองน้ำช่วยขับสีของดอกให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ควรเตรียมร่มหรือเสื้อกันฝน และรองเท้าที่เหมาะสำหรับพื้นลื่น เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
แม้ฤดูฝนของญี่ปุ่นอาจทำให้หลายคนรู้สึกเฉอะแฉะและไม่สะดวก แต่ความงดงามของดอกอาจิไซที่เบ่งบานอย่างสง่างามท่ามกลางสายฝนคือสิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางหรือคนรักธรรมชาติ ดอกไม้เล็ก ๆ ที่เปลี่ยนสีได้ตามดินนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความไม่แน่นอนของชีวิต แต่ยังเปล่งประกายความหวังและความงามในช่วงเวลาที่มืดครึ้มหากคุณมีโอกาสได้ไปเยือนญี่ปุ่นในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม อย่าลืมแวะชมดอกอาจิไซที่สถานที่เหล่านี้ แล้วคุณจะหลงรักฤดูฝนในแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อน
เมื่อวางแผนจะไปสัมผัสกับความงามของธรรมชาติของญี่ปุ่นแล้ว หากไม่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่ หรือใช้ไปซักพักแล้วความเร็วลดลงระหว่างวัน ต้องรอรีเซ็ตในวันใหม่ก็คงจะกวนใจไม่น้อย เพื่อไม่ให้เป็นแบบนั้นอย่าลืมพก Nihon SIM ซิมเน็ต 5G Unlimited ไม่ลดความเร็ว ที่มีแพ็คเกจให้เลือกหลากหาย สามารถเลือกใช้งานตามทริปที่แพลนได้อย่างลงตัว
