
JAPAN
รายละเอียดและเงื่อนไขเกี่ยวกับ NihonSIM+ (in progress)
NihonSIM+ คืออะไร?
NihonSIM+ คือ sim card ญี่ปุ่นที่สามารถใช้ทั้ง internet และการโทรใน sim card ใบเดียวกัน เหมาะสำหรับคนที่ไปอยู่ญี่ปุ่นระยะยาว เช่น ต้องไปทำงานหรือไปเรียนต่อ แต่ไม่ต้องการเสียเวลาที่จะต้องดำเนินการทำสัญญา sim card กับค่ายมือถือของทางญี่ปุ่น อาจจะด้วยด้านภาษาที่จะต้องพูดคุยกับพนักงานก็ดี หรืออาจจะความกังวลในเวลาที่จะต้องคุยกับพนักงานตอนที่เกิดปัญหากับ sim card ของตนเองก็ดี
Nihon Sim + จะมีทั้งแบบกำหนดระยะเวลา (prepaid) และแบบรายเดือน (postpaid) โดยแบบรายเดือนแยกเป็นแบบที่ติดสัญญา 1 ปี และแบบที่ไม่ติดสัญญา มีรายละเอียดดังนี้ (ราคาทั้งหมดยังไม่รวม vat 7%) :
แบบกำหนดระยะเวลา (prepaid)
ข้อควรทราบก่อนใช้บริการแบบกำหนดระยะเวลา (prepaid)
– เมื่อใช้งาน internet ครบปริมาณตามแพ็คเกจแล้ว ความเร็วจะลดลงเหลือ 128kbps
– หาก sim card สูญหาย จะไม่สามารถดำเนินการออก sim ใบใหม่ได้
– สามารถใช้งานได้เฉพาะประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
– ไม่สามารถเพิ่มหรือขยายวันใช้งานของ sim card ได้เมื่อใช้งานถึงกำหนด
– สำหรับโทรศัพท์มือถือ Android บางรุ่น จำเป็นต้องตั้งค่า APN หลังจากที่ใส่ sim card แล้ว
– ในบางพื้นที่อาจพบปัญหาเรื่องสัญญาณ เช่น ในตัวอาคาร ใต้ดิน ในอุโมงค์ จุดอับสัญญาณ ในพื้นที่ภูเขา หรือในทะเล รบกวนตรวจสอบพื้นที่อับสัญญาณกับทางเครือข่าย AU
– ไม่สามารถคืนสินค้าได้หลังจากที่ทำการซื้อไปแล้ว
– มีบางกรณีที่ sim card ไม่สามารถใช้งานกับเครื่องโทรศัพท์มือถือ/อุปกรณ์ที่ล็อก sim หรือไม่สามารถรับคลื่นความถี่ของทาง AU ได้
********************
แบบรายเดือน (postpaid) : ติดสัญญา 1 ปี
แบบรายเดือน (postpaid) : ไม่ติดสัญญา
ข้อควรทราบก่อนใช้บริการแบบรายเดือน (postpaid)
– เมื่อใช้งาน internet ครบปริมาณตามแพ็คเกจแล้ว ความเร็วจะลดลงเหลือ 128kbps
– หากผู้ที่มาทำสัญญายังไม่บรรลุนิติภาวะ (อายุต่ำกว่า 20 ปี) จะไม่สามารถทำธุรกรรมได้ ต้องมีผู้ปกครองมาดำเนินการทำธุรกรรมร่วมกัน
– ในการทำสัญญาแบบรายเดือน (postpaid) จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้า 1,000 บาทในตอนที่มาทำสัญญาเพียงครั้งเดียว โดยถูกนำไปคำนวณรวมกับค่ารายเดือนเดือนแรก
– ค่าบริการายเดือนจะเริ่มรอบบิลทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน หากมาทำสัญญาระหว่างเดือนนั้นๆ ค่าบริการและสิทธิ์การใช้งานตามแพ็คเกจของเดือนนั้นๆจะถูกคำนวณตามวันที่ใช้งาน (คำนวณแบบหารวัน โดยถือว่าใน 1 เดือน มีวันใช้งานทั้งหมด 30 วัน ถึงแม้ว่าเดือนนั้นจะมี 28 29 หรือ 31 วันก็ตาม) โดยจะเริ่มคำนวณจากวันที่ใช้งานจริงไปจะถึงวันสุดท้ายของสิ้นเดือนนั้นๆ
– สำหรับลูกค้าบุคคล การชำระเงินค่ารายเดือนจะเป็นการชำระผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต โดยค่ารายเดือนของแต่ละเดือนจะถูกเรียกกับประมาณวันที่ 20 ของเดือนถัดไป ทางผู้ชำระจะต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมการบริการจากตัวแทนการชาระเงิน (3.75%) ค่าธรรมเนียมนี้จะรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat 7%) ด้วย
– สำหรับลูกค้านิติบุคคล การชำระเงินค่ารายเดือนจะเป็นการชำระผ่านการโอนเงิน โดยค่ารายเดือนของแต่ละเดือนจะถูกเรียกกับประมาณวันที่ 20 ของเดือนถัดไป ทางผู้ชำระจะต้องชำระภายใน 10 วันหลังจากวันที่ระบุในใบแจ้งหนี้
– สาหรับธุรกรรมระหว่างนิติบุคคลในประเทศไทย จะมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย (With-Holding Tax) ด้วย หากลูกค้าต้องการให้หักภาษี ณ ที่จ่ายออกจากยอดเงิน ลูกค้าสามารถโอนเงินตามยอดหักภาษี ณ ที่จ่าย พร้อมทั้งส่งสำเนา Pay-in Slip และเอกสารคำนวณภาษี ณ ที่จ่าย (With-Holding Tax) เพื่อยืนยันการชาระเงิน
– หากการทำสัญญาใช้บริการเสร็จสมบูรณ์ และลูกค้าเริ่มใช้งาน sim card แล้ว สามารถขอยกเลิกได้ภายใน 7 วัน อย่างไรก็ตามจะไม่สามารถใช้งาน sim card ได้หลังจากทำการยกเลิกสัญญาไปแล้ว
– ลูกค้าจะต้องชำระค่าบริการที่เกิดขึ้นจนกว่าขั้นตอนการยกเลิกที่บริษัทกาหนดจะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมแรกเข้า, ค่าบริการรายเดือน, ค่าบริการการสื่อสาร, ค่าบริการเสริม , ค่าบริการต่างๆ และค่าธรรมเนียมการยกเลิกบริการ พร้อมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat 7%) ในประเทศไทย
– หากขั้นตอนการดำเนินการยกเลิกสัญญาไม่เส็รจสมบูรณ์ หรือไม่สามารถตรวจสอบการชาระเงินได ้ บริษัทจะถือว่าลูกค้าไม่ต้องการยกเลิกบริการอีกต่อไป
====================
ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าบุคคลหรือนิติบุคคลก็สามารถซื้อ NihonSIM+ ได้ โดยจะต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ :
เอกสารสำหรับลูกค้าบุคคล
– แบบกำหนดระยะเวลา (prepaid)
— เอกสาร passport ของผู้ที่มาซื้อ sim card
– แบบรายเดือน (postpaid) ติดสัญญา 1 ปีและไม่ติดสัญญา
— เอกสาร passport หรือบัตรประชาชนของผู้ที่ต้องการทำสัญญา
— เอกสาร passport ของผู้ที่ต้องการจะใช้งาน
เอกสารสำหรับลูกค้านิติบุคคล
– แบบกำหนดระยะเวลา (prepaid)
— เอกสาร passport ของผู้ที่มาซื้อ sim card
– แบบรายเดือน (postpaid) ติดสัญญา 1 ปีและไม่ติดสัญญา
— เอกสารหนังสือรับรองบริษัท
— เอกสาร ภ.พ. 20
— เอกสาร passport หรือบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามตามหนังสือรับรองบริษัท
— เอกสาร passport ของผู้ที่ต้องการจะใช้งาน
====================
การเปลี่ยนแพ็คเกจที่ใช้งาน
สำหรับลูกค้ารายเดือน (postpaid) ทั้งแบบที่ติดสัญญา 1 ปีและแบบที่ไม่ติดสัญญา หากใช้งานไปสักระยะและมีความประสงค์ที่ต้องการเปลี่ยนแพ็คเกจที่กำลังใช้งานอยู่ ณ ปัจจุบันก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยการที่จะเปลี่ยนแพ็คเกจนั้นจะต้องแจ้งภายในเวลาไทย 18:30 ของวันที่ 25 ของเดือนนั้นๆ และแพ็คเกจของลูกค้าจะถูกเปลี่ยนโดยมีผลในวันที่ 1 ของเดือนถัดไปเท่านั้น จะไม่สามารถเปลี่ยนโดยให้มีผลทันทีหรือเลือกวันที่ต้องการจะให้มีผลได้
หากเป็นลูกค้ารายเดือนแบบไม่ติดสัญญา แต่ต้องการเปลี่ยนมาใช้งานแพ็คเกจแบบติดสัญญา 1 ปี ระยะเวลาของสัญญา 1 ปีจะเริ่มต้น ณ เดือนที่ลูกค้าต้องการจะให้แพ็คเกจใหม่มีผล
แต่ถ้าหากเป็นลูกค้าแบบติดสัญญา 1 ปี แต่ต้องการเปลี่ยนมาใช้งานแพ็คเกจแบบไม่ติดสัญญา จะไม่สามารถดำเนินการเปลี่ยนแพ็คเกจได้ตามเงื่อนไขของบริษัท
ตัวอย่างการแจ้งเปลี่ยนแพ็คเกจ :
ณ วันที่ 10 June 2025 ลูกค้าใช้งานแพ็คเกจ 10GB อยู่และต้องการเปลี่ยนแพ็คเกจเป็น 20GB โดยต้องการให้มีผลในเดือน July 2025 ลูกค้าจะต้องแจ้งความประสงค์ในการเปลี่ยนแพ็คเกจกับทางเราภายในเวลาไทย 18:30 ของวันที่ 25 June 2025 และแพ็คเกจจะมีการเปลี่ยนในวันที่ 1 July 2025 ตามเงื่อนไขของบริษัท แต่ถ้าหากลูกค้ามาแจ้งเปลี่ยนแพ็คเกจหลังเวลาไทย 18:30 ของวันที่ 25 June 2025 เป็นต้นไป ทางเราขออนุญาตสงวนสิทธิ์ตามเงื่อนไขของบริษัทในการเปลี่ยนแพ็คเกจ และจะเปลี่ยนแพ็คเกจให้ลูกค้าในวันที่ 1 August 2025 แทนเนื่องจากเกินระยะเวลาในการแจ้งเปลี่ยนแพ็คเกจ
สำหรับลูกค้าที่ใช้งานแบบกำหนดระยะเวลา (prepaid) จะไม่สามารถเปลี่ยนแพ็คเกจเป็นแบบกำหนดระยะเวลา (prepaid) แพ็คเกจอื่นได้ เมื่อใช้งานครบตามเงื่อนไขของแพ็คเกจแล้วจะถือว่าแพ็คเกจได้สิ้นสุดลง แต่จะสามารถเปลี่ยนไปเป็นแบบรายเดือน (postpaid) ทั้งแบบที่ติดสัญญา 1 ปีและแบบที่ไม่ติดสัญญาได้
====================
การยกเลิกสัญญา
สำหรับลูกค้ารายเดือน (postpaid) ทั้งแบบที่ติดสัญญา 1 ปีและแบบที่ไม่ติดสัญญา หากไม่ต้องการที่จะใช้งาน sim card แล้วสามารถแจ้งยกเลิกสัญญากับทางเราได้ โดยการแจ้งยกเลิกสัญญานั้นต้องแจ้งภายในเวลาไทย 18:30 ของวันที่ 25 ของเดือนนั้นๆ และ sim card ของลูกค้าจะถูกยกเลิกในวันสุดท้ายของเดือนนั้นๆ จะไม่สามารถยกเลิกให้มีผลทันทีหรือเลือกวันที่ต้องการที่จะให้มีผลได้ หรือถ้าหากวันสุดท้ายของเดือนนั้นๆตรงกับวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์ sim card ของลูกค้าจะยังไม่ถูกยกเลิก ณ วันนั้นๆแม้ว่าจะเป็นวันสุดท้ายของเดือนนั้นๆก็ตาม แต่จะถูกยกเลิกในวันทำการแทน ถ้าหากลูกค้ามีการใช้งานระหว่างนั้นจะถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่เพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน
หากเป็นลูกค้าแบบติดสัญญา 1 ปี แล้วต้องการจะยกเลิก sim card ก่อนหมดสัญญา (ยังใช้งานไม่ครบ 1 ปีตามสัญญา) จะมีการเรียบเก็บค่าปรับการยกเลิกก่อนหมดสัญญา 2,000 บาทอัตราเดียว (ยังไม่รวม vat 7%)
ตัวอย่างการแจ้งยกเลิกสัญญา :
ณ วันที่ 10 June 2025 ลูกค้าใช้งานแพ็คเกจ 10GB และต้องการจะใช้งานในเดือน June เป็นเดือนสุดท้าย ลูกค้าจะต้องแจ้งความประสงค์ในการยกเลิกสัญญากับทางเราภายในเวลาไทย 18:30 ของวันที่ 25 June 2025 และ sim card ของลูกค้าจะถูกยกเลิกในวันที่ 30 June 2025 ตามเงื่อนไขของบริษัท แต่ถ้าหากลูกค้ามาแจ้งยกเลิกสัญญาหลังเวลาไทย 18:30 ของวันที่ 25 June 2025 เป็นต้นไป ทางเราขออนุญาตสงวนสิทธิ์ตามเงื่อนไขของบริษัทในการยกเลิกสัญญา และจะยกเลิกสัญญาให้ลูกค้าในวันที่ 31 July 2025 แทนเนื่องจากเกินระยะเวลาในการแจ้งยกเลิกสัญญา
====================
การออก sim (เฉพาะแบบรายเดือน (postpaid)) ใหม่ในทุกกรณี
sim ใหม่จะถูกส่งมาจากญี่ปุ่น ระยะเวลา ณ ตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วจะนำมาเพิ่มทีหลัง
====================
การจัดส่ง sim ให้กับลูกค้า
เนื่องจากจะต้องมีการยืนยันตัวตนของผู้ที่มาทำสัญญาและผู้ที่จะใช้งาน ดังนั้นทางลูกค้าจะต้องมาดำเนินการทำสัญญา ชำระเงิน พร้อมรับ sim ที่หน้าร้าน Berrymobile เท่านั้น
หากลูกค้าต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อ 02-105-4568 กด 9 (ภาษาไทย) ได้ตลอด 24 ชม.