Price List FAQ Book Now
Page Top

skyberry

ใช้งานอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศต้อง Skyberry

02-105-4568
contact application form

JAPAN

พร้อมลุยญี่ปุ่นแบบมือโปรใน 5 ขั้นตอนง่าย ๆ!

         ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทย ไม่ว่าจะไปชมซากุระ เดินเล่นย่านช้อปปิ้ง กินราเม็งร้อน ๆ ท่ามกลางอากาศเย็น หรือแช่ออนเซ็นท่ามกลางหิมะ ทุกฤดูกาลล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัว แต่การเที่ยวให้สนุก ไม่สะดุดตั้งแต่วันแรก จำเป็นต้องมี “การเตรียมตัวที่ดี”

หากคุณกำลังวางแผนจะบินไปญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกหรือครั้งที่ห้า บทความนี้จะช่วยให้คุณ “พร้อมลุย” แบบมือโปร ด้วย 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้ อ่านจบแล้ว… แพ็กกระเป๋าได้เลย!

 

  1. วางแผนการเดินทางล่วงหน้า

การเที่ยวญี่ปุ่นจะสนุกขึ้นมากถ้ามีการวางแผนล่วงหน้า เพราะญี่ปุ่นมีเมืองท่องเที่ยวให้เลือกมากมาย เช่น โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ซัปโปโร ฮาโกดาเตะ ฯลฯ แต่ละเมืองก็มีจุดเด่นและช่วงเวลาท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน

สิ่งที่ควรวางแผนล่วงหน้า

          ช่วงเวลาเดินทาง: ฤดูใบไม้ผลิ (มีชมซากุระ), ฤดูใบไม้ร่วง (มีใบไม้เปลี่ยนสี), ฤดูหนาว (มีหิมะ), ฤดูร้อน (มีเทศกาลดั้งเดิม)

          เมืองและสถานที่ท่องเที่ยว: ลิสต์สถานที่ที่อยากไปและวางแผนเส้นทางให้เหมาะสม เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาย้อนไปมา หากมีแผนเดินทางข้ามเมือง เช่น โตเกียว-โอซาก้า หรือเกียวโต-ฮอกไกโด ควรพิจารณาซื้อบัตร JR Pass ซึ่งเป็นบัตรโดยสารรถไฟที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้งานได้แบบไม่จำกัดในระยะเวลาที่กำหนด (7, 14, หรือ 21 วัน) ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก

          จองที่พักล่วงหน้า: โดยเฉพาะถ้าไปช่วงพีคซีซั่น แนะนำจองผ่านแอปที่สามารถยกเลิกได้ฟรี

          ซื้อตั๋วล่วงหน้า: เช่น บัตร JR Pass, บัตรเข้าสวนสนุก (เช่น USJ หรือ Disneyland)

การวางแผนล่วงหน้าจะช่วยประหยัดเวลาและงบประมาณ ควรทำแพลนเที่ยวคร่าวๆ ว่าจะไปที่ไหน เมืองใดบ้าง สถานที่ใดควรจองล่วงหน้า เช่น พิพิธภัณฑ์ Ghibli, USJ, Fuji-Q Highland หรือร้านอาหารดังที่ต้องจองล่วงหน้า

ในเมืองหลักอย่างโตเกียวหรือโอซาก้า ควรซื้อบัตร IC Card เช่น Suica, Pasmo, หรือ ICOCA เพื่อใช้แตะจ่ายค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน รถบัส หรือร้านค้าได้อย่างสะดวก

 

การใช้งานบัตรแต่ละประเภท

     JR pass บัตรที่ครอบคลุมเส้นทางรถไฟระหว่างเมืองส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น ที่สามารถเลือกซื้อแบบแยกย่อยแต่ละภูมิภาคได้อีกด้วย

     IC card บัตรสำหรับชำระค่าบริการขนส่งท้องถิ่นประเภทต่างๆ อย่าง รถประจำทางท้องถิ่น

     ตั๋วรถไฟใต้ดินในโตเกียว เป็นตั๋วสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในโตเกียวได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้งใน 1,2 หรือ 3 วัน โดยเป็นรถไฟในเครือ Tokyo Metro และ Toei Subway

     Osaka Amazing Pass บัตรสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในโอซาก้า ซึ่งรวมถึงการเข้าสถานที่สำคัญหลายแห่งในโอซาก้าได้ด้วย

   Kansai Thru Pass ใช้กับการเดินทางในคันไซยกเว้นรถไฟสาย JR ที่ต้องใช้ JR Pass

 

  1. จัดกระเป๋าให้เหมาะกับอากาศ

อากาศที่ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงชัดเจนในแต่ละฤดู การจัดกระเป๋าให้เหมาะกับฤดูจึงสำคัญมาก โดยเฉพาะถ้าไม่อยากเสียเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ที่นั่นในราคาสูง

สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืม

     ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.–พ.ค.): อากาศเย็นสบาย ควรมีเสื้อคลุมบางๆ นิยมใส่เสื้อผ้าแขนยาว ขายาว ที่มีความรัดกุม อบอุ่น แต่ไม่จำเป็นต้องใส่เป็นชั้นหนาๆ เนื่องจากเป็นฤดูที่มีความอบอุ่นขึ้นจากฤดูหนาว

     ฤดูร้อน (มิ.ย.–ส.ค.): อากาศร้อนและชื้น เหมาะกับเสื้อผ้าบางเบา ควรเตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่หนาจนเกินไปเนื่องจากฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นมีความร้อนชื้น

     ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.–พ.ย.): อากาศเย็นลง ควรมีเสื้อแจ็คเก็ตติดตัว แนะนำเสื้อผ้าที่มีความอบอุ่น และเตรียมซื้อร่ม เสื้อกันฝนในญี่ปุ่นด้วยเนื่องจากเป็นช่วงที่มีพายุฝน

     ฤดูหนาว (ธ.ค.–ก.พ.): อากาศหนาวจัด โดยเฉพาะทางตอนเหนือ ต้องเตรียมเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ หมวกไหมพรม และถุงมือ เสื้อผ้าควรมีความหนาเป็นพิเศษ เสื้อโค้ท เสื้อขนแกะ โดยแนะนำว่าให้ซื้อเสื้อกันหนาวจากแบรนด์ที่สามารถกันหนาวได้จริง

     ยา: ยาประจำตัว ยาแก้แพ้ ยาแก้ปวด เพราะหาซื้อยาที่เข้าใจภาษายาก

     ร่มหรือเสื้อกันฝน: โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนหรือฤดูใบไม้ผลิ

นอกจากนี้ควรเตรียมรองเท้าที่ใส่เดินสบาย เพราะการเดินในญี่ปุ่นเป็นกิจกรรมหลัก สำลีล้างหน้า ครีมกันแดด และปลั๊กแปลงไฟ (ไฟญี่ปุ่นใช้แบบปลั๊กสองขาแบน 100V)

 

  1. เตรียมอินเทอร์เน็ตและแอปช่วยเดินทาง

การมีอินเทอร์เน็ตระหว่างอยู่ญี่ปุ่นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยให้คุณค้นหาข้อมูล เส้นทาง และแปลภาษาได้ทันที โดยเฉพาะในเมืองที่ชาวเมืองไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ

ตัวเลือกยอดนิยมสำหรับอินเทอร์เน็ต

     eSIM: สะดวกมาก ไม่ต้องเปลี่ยนซิมในมือถือสามารถเพิ่มเข้าไปในมือถือได้เลยเพียงแค่สแกน

     Pocket Wi-Fi: เหมาะกับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว แชร์ได้หลายเครื่องและควรจองล่วงหน้า

     ซิมญี่ปุ่น: ซื้อจากไทยหรือรับที่สนามบิน (ควรเช็กด้วยว่ามือถือที่ใช้งานอยู่รองรับ 4G บนย่านความถี่ของญี่ปุ่นหรือไม่ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นไม่รองรับ 3G แล้ว)

 

     โหลดแอปให้พร้อม: เช่น

               Google Maps (ใช้ดูแผนที่)

               Japan Travel by NAVITIME (ดูเส้นทางรถไฟแบบเจาะจง)

               Google Translate (แปลเมนูและบทสนทนาต่างๆ)

               Suica/Pasmo App (ใช้สำหรับบัตรเติมเงินและใช้แตะจ่ายค่าเดินทาง)

               Japan Official Travel App – มีประกาศภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ (เช่น แผ่นดินไหว รถไฟดีเลย์ ฯลฯ)

 

  1. จัดการเรื่องเงินและการจ่ายเงิน

แม้ญี่ปุ่นจะรองรับการชำระเงินแบบไร้เงินสดมากขึ้น แต่ร้านค้าเล็กๆ หรือในชนบทหลายแห่งยังคงรับเฉพาะเงินสด แนะนำให้แลกเงินเยนไว้ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หรือแลกที่สนามบินในไทย

สามารถใช้บัตรเครดิตที่รองรับการใช้งานต่างประเทศได้ และควรมีบัตรมากกว่าหนึ่งใบเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน

 

  1. ทำความเข้าใจมารยาทและวัฒนธรรมพื้นฐาน

การรู้จักวัฒนธรรมพื้นฐานของชาวญี่ปุ่นจะช่วยให้คุณได้รับการต้อนรับที่ดี

     ห้ามพูดเสียงดังในที่สาธารณะ โดยเฉพาะบนรถไฟหรือในร้านอาหาร

     ห้ามกินอาหารขณะเดินอยู่บนถนน คนญี่ปุ่นถือว่าไม่สุภาพ ควรกินในที่จัดไว้เท่านั้น

     ควรถอดรองเท้าเมื่อเข้าไปในบ้านหรือร้านอาหารบางแห่ง

     การโค้งเป็นการทักทายหรือขอบคุณที่นิยมใช้แทนการจับมือ

     แยกขยะให้ถูกต้องเนื่องจากญี่ปุ่นจริงจังเรื่องการแยกขยะมาก

 

          โดยภาพรวมการเตรียมตัวไปญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แค่มีการวางแผนล่วงหน้า จัดของให้ครบ เตรียมอินเทอร์เน็ตให้พร้อม รวมทั้งศึกษาวัฒนธรรมพื้นฐานและข้อมูลการเดินทาง ก็ช่วยให้ทริปญี่ปุ่นราบรื่น สนุก และน่าประทับใจยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะไปกับครอบครัว คนรัก หรือเดินทางคนเดียวก็ “พร้อมลุยแบบมือโปร” ได้เลย!

 

 

Pocket WiFi และ Internet SIM ที่แนะนำสามารถจิ้มที่รูปด้านล่างได้เลย