
JAPAN
ประวัติศาสตร์ QR code ถูกคิดค้นโดยชาวญี่ปุ่น
สวัสดีค่ะ หัวข้อของวันนี้ก็คือ รู้หรือไม่ QR code ถูกคิดค้นโดยชาวญี่ปุ่น
📍จุดเริ่มต้น
เริ่มต้นเมื่อปี 1994 ที่ประเทศญี่ปุ่น คุณมาซาฮิโระ ฮาระ วิศวกรของบริษัท Denso Wave คิดค้นระบบคิวอาร์โค้ดแบบสี่เหลี่ยมที่ทุกวันนี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายค่ะ โดยเดิมทีที่บริษัทใช้เป็นระบบบาร์โค้ด แต่เนื่องจากสามารถเก็บข้อมูลได้ค่อนข้างจำกัด (ส่วนใหญ่ข้อมูลต้องเป็นตัวเลข) คุณมาซาฮิโระ และทีมจึงได้รับมอบหมายให้หาวิธีใหม่ในการเก็บข้อมูลที่รวดเร็ว และมากกว่าเดิม เขาและทีมงานจึงได้พัฒนาระบบคิวอาร์โค้ดขึ้นมา โดยระบบนี้สามารถเก็บข้อมูลตัวอักษร ตัวเลข ข้อมูลไบนารี หรือแม้กระทั่งตัวอักษรคันจิ และระบบคิวอาร์โค้ดนี้ยังมีจุดเด่นคือ สามารถแสกนได้รวดเร็ว และแม่นยำ แม้จะเอียง หรือเสียหายบางส่วนอีกด้วยค่ะ
🤔QR code คือ
สำหรับคำว่า QR Code ย่อมาจาก Quick Response Code เพราะตอนที่มาซาฮิโร ฮาระคิดค้น เขาต้องการให้โค้ดชนิดใหม่นี้ สแกนได้เร็วและอ่านข้อมูลได้ทันที ต่างจากบาร์โค้ดแบบเดิมที่ช้าและข้อจำกัดเยอะนั่นเองค่ะ
🤨ที่มาของการคิดค้น
จากการเกิดขึ้นของปัญหาที่พบกับบาร์โค้ดแบบเดิม ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม สามารถเก็บข้อมูลได้จำกัด ส่วนใหญ่แค่ตัวเลขเพียง 20 หลักเท่านั้น เวลาแสกน ก็ต้องทำให้เครื่องอ่านตรงกับเส้นบาร์โค้ด ทำให้ช้า และเกิดข้อผิดพลาดบ่อย เขาจึงต้องการวิธีที่จะเก็บข้อมูลได้มากขึ้น และเร็วขึ้น โดยคุณมาซาฮิโระได้แรงบันดาลใจจากเกมโกะ ที่เป็นจุดขาว-ดำ และเรียงเป็นตาราง โดยจะสังเกตุว่าตำแหน่งของจุดสามารถบอกข้อมูลได้ จากนั้นเขาจึงได้ไอเดียว่า ถ้าทำรหัสเป็นสี่เหลี่ยมสองมิติ น่าจะเก็บข้อมูลได้มากกว่าบาร์โค้ดแบบเส้นนั่นเอง
การออกแบบคิวอาร์โค้ด ทางทีมและคุณมาซาฮิโระ ใช้เวลาประมาณ 1ปีครึ่งในการพัฒนา โดยเพิ่มตาเหลี่ยม 3มุมใหญ่เพื่อให้สแกนเนอร์รู้ตำแหน่ง และทิศทางของโค้ดได้ทันที สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าเดิมหลายร้อยเท่า (ตัวเลขสามารถทำได้มากถึง7000ตัว) นอกจากนั้นยังมีระบบ error correction ทำให้สแกนได้แม้โค้ดจะเสียหายบางส่วนอีกด้วยค่ะ
ปัจจุบันคิวอาร์โค้ด ถูกใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก เช่น การชำระเงิน การตลาด การออกตั๋วโดยสาร การเข้าถึงเว็บไซต์
โดยทางบริษัท Denso Wave ได้เผยแพร่มาตรฐานคิวอาร์โค้ดให้ใช้ได้ฟรีโดยไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์อีกด้วยค่ะ
📌 ไทม์ไลน์ QR Code
1994 – มาซาฮิโร ฮาระ และทีมงานบริษัท Denso Wave ประเทศญี่ปุ่น คิดค้น QR Code
1997 – QR Code เริ่มถูกใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น เพื่อเก็บข้อมูลชิ้นส่วน
2002 – โทรศัพท์มือถือญี่ปุ่นรุ่นแรก ๆ เริ่มมี ฟังก์ชันสแกน QR Code
2004 – Denso Wave เผยแพร่มาตรฐาน QR Code ให้ใช้งานได้ ฟรี ทั่วโลก
2010s – QR Code เริ่มได้รับความนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะการตลาดและโฆษณา
2011 – Alipay (จีน) เริ่มใช้ QR Code ในการชำระเงิน → จุดเริ่มต้นของ QR Payment
2017–2019 – ไทยเปิดตัว PromptPay QR และ มาตรฐาน QR Code สำหรับการชำระเงิน
2020s – ช่วงโควิด-19 QR Code ถูกใช้แพร่หลายมากขึ้น ทั้งใน เมนูร้านอาหาร, ลงทะเบียน, ตั๋วเดินทาง และระบบจ่ายเงิน
และวันนี้ก็อยากจะแนะนำการติดตั้ง และการใช้งาน e-sim โดยผ่านการแสกนคิวอาร์โค้ดด้วยค่ะ
⚙️ขั้นตอนการติดตั้ง eSIM
ขั้นตอนที่ 1
ตรวจสอบก่อนใช้งาน
-ตรวจสอบว่ามือถือ/แท็บเล็ตที่ใช้ รองรับ eSIM (เช่น iPhone XR ขึ้นไป, Google Pixel, Samsung Galaxy รุ่นใหม่ ๆ) หรือไม่
-เครือข่ายหรือผู้ให้บริการต้องมีบริการ eSIM
-เตรียม QR Code หรือรหัสยืนยัน eSIM ที่ได้จากผู้ให้บริการ
ขั้นตอนที่ 2 การติดตั้ง eSIM
สำหรับ iPhone (iOS)
1.ไปที่ Settings > Cellular / Mobile Data
2.เลือก Add Cellular Plan
3.สแกน QR Code eSIM ที่ผู้ให้บริการให้มา หรือกรอกรหัสยืนยัน (Activation Code) ระบบจะเพิ่มโปรไฟล์ eSIM เข้ามาในเครื่อง
สำหรับ Android (เช่น Samsung, Pixel)
1.ไปที่ Settings > Connections > SIM manager / Mobile network
2.เลือก Add mobile plan
3.สแกน QR Code หรือกรอกรหัสที่ได้
4.รอระบบติดตั้ง eSIM ให้เสร็จ
ขั้นตอนที่ 3 การใช้งาน eSIM
เลือกว่าจะใช้ eSIM เป็น ซิมหลักหรือซิมรอง (Primary / Secondary)
สามารถ สลับเบอร์ ระหว่างซิมปกติ (Nano-SIM) และ eSIM ได้
ใช้ได้ทั้ง โทร, ส่ง SMS, เล่นอินเทอร์เน็ต, Roaming ตามแพ็กเกจที่สมัคร
💡 เคล็ดลับ
ควร เชื่อมต่อ Wi-Fi ตอนติดตั้ง eSIM เพื่อให้ดาวน์โหลดโปรไฟล์ได้ราบรื่น
หากเดินทางต่างประเทศ มักจะซื้อ eSIM ออนไลน์ → แค่รับ QR Code ทางอีเมล แล้วสแกนก็ใช้งานได้เลย
สามารถติดตั้ง หลาย eSIM ไว้ในเครื่อง แต่เปิดใช้งานพร้อมกันได้จำกัด (เช่น iPhone รองรับสูงสุด 2 active SIM) ค่ะ
หากท่านมีแพลนที่จะไปท่องเที่ยวเร็วๆนี้ละก็ ทางเราขอแนะนำ NihonSIM ซิมส์ญี่ปุ่น ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ไม่จำกัด รองรับสัญญาณสูงสุด 5G ของเครือข่ายประเทศญี่ปุ่น มีหลายแบบให้เลือก เหมาะสำหรับผู้เดินทางทั้งระยะสั้นและระยะยาว ไม่ต้องกังวลว่าอินเตอร์เน็ตจะหมดกลางทาง ใช้งานง่าย รองรับทั้งระบบ IOS และ Android
ขอฝากซิมส์ญี่ปุ่นน้องใหม่ NihonSim by Travesim ด้วยนะคะ สนใจสั่งซื้อ คลิกที่ปุ่มสีส้มด้านล่างได้เลยค่ะ
หรือหากเดินทางกันหลายท่าน แนะนำเป็น Skyberry pocket wifi 7วัน 599บาท
สนใจคลิ๊กที่รูปเพื่อแอดไลน์เพื่อสอบถามกับแอดมินได้เลยนะคะ
ตอบโจทย์ทุกสาย ไม่ว่าจะสายท่องเที่ยว ค้นหาเส้นทาง เปิดMap, สาย Content ที่ชอบถ่ายคลิป ไลฟ์สด หรือ Streaming
ระยะเวลาโปรโมชั่น วันนี้ – 31 ธันวาคม 2568
การจัดส่ง ส่งฟรีทั่วไทย เฉพาะแพ็กเกจนี้เท่านั้น
หากลูกค้าสนใจสามารถ add line : @skyberry ได้เลยนะคะ