
JAPAN
เมล่อนปัง ขนมปังที่หลายๆคนอยากลองชิม
สวัสดีครับทุกท่าน หากเราจะพูดถึงขนมปังที่มีชื่อเสียงมากๆชนิดหนึ่งในญี่ปุ่น ทุกท่านจะนึกถึงขนมปังชนิดไหนครับ ผมคิดว่าน่าจะต้องมีขนมปังชนิดนี้อยู่ในตัวเลือกของหลายๆท่านแน่นอนครับ โดยที่ขนมปังชนิดนี้นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเรื่องของรูปร่างครับ ที่ถ้าทุกท่านเห็นก็น่าจะรู้ทันทีว่าคือขนมปังนี้ ใช่แล้วครับวันนี้ผมจะขออนุญาตนำ เมล่อนปัง (メロンパン, Melon Pan) มาเป็นหัวข้อในการเล่าเรื่องให้ทุกท่านได้อ่านกันในวันนี้ครับ
ประวัติความเป็นมาของเมล่อนปัง
งั้นมาเริ่มกันเลยครับ ผมจะขอเล่าประวัติคร่าวๆสั้นๆกันสักหน่อยว่าเมล่อนปังมีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันบ้างครับ ต้องบอกก่อนว่าเมเล่อนปังอาจจะไม่ได้มีประวัติที่ชัดเจนครับ จะมีเป็นทั้งความเชื่อและบันทึกที่มีการเขียนที่ต้นกำเนิดของเมล่อนปังครับ หลายๆคนเชื่อว่าเมล่อนปังถูกพัฒนาขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1910 – 1930 โดยมีบันทึกว่า Irinaka Hovhannes Ghevenian (เชฟชาวอาร์เมเนีย) ได้นำเทคนิคการทำขนมปังมาสู่ญี่ปุ่น และสร้างเมล่อนปังในสมัยที่ทำงานให้กับ Tokyo’s Imperial Hotel ครับ และอีกความเชื่อที่ผมจะนำมาพูดก็คือเมล่อนปังมีแรงบันดาลใจจาก Conchas ของเม็กซิโก หรือ Pineapple Buns (菠蘿包) ของฮ่องกง ซึ่งต่างก็เป็นขนมปังโรยหน้าด้วยแป้งหวานกรอบครับ
เหตุผลที่ทำไมถึงชื่อ “เมล่อนปัง”
ทุกท่านเชื่อไหมครับว่า เมล่อนปัง นั้นไม่ได้มีส่วนผสมของเมล่อนเลยสักนิด แต่ทำไมถึงใช้ชื่อว่า เมล่อนปัง งั้นเราไปหาคำตอบพร้อมๆกันเลยครับ
เริ่มต้นที่คำว่า パン (Pan) ครับ คำว่า Pan มาจากภาษาโปรตุเกส pão ซึ่งจะหมายถึง “ขนมปัง” ส่วนคำว่า メロン (Melon) นั้นไม่ได้หมายถึงรสชาติหรือกลิ่นของเมล่อน แต่หมายถึง “รูปลักษณ์” ของตัวของขนมปังครับ โดยที่ผิวด้านบนจะถูกกรีดลายตาราง ทำให้ดูคล้ายเปลือกของเมล่อนเมล่อนนั่นเองครับ แต่ก็ยังมีอีกความเชื่อหนึ่งที่บอกว่า ญี่ปุ่นในยุคนั้นถือว่าเมล่อนเป็นผลไม้หรูหรา ราคาแพง การเรียกชื่อขนมว่า “เมล่อนปัง” จึงช่วยให้ดูพิเศษและขายได้ง่ายขึ้นครับ อาจจะมองได้ว่าเป็นการตลาดของการขายของในยุคนั้นก็ไม่ผิดครับ
การแพร่หลายและการพัฒนาของเมล่อนปัง
– ยุคโชวะตอนต้น (ปี ค.ศ. 1930 – 1940) เมล่อนปังเริ่มถูกทำขายมากขึ้น แต่ยังถือเป็นขนมใหม่และหรูหรา ไม่ใช่ของที่หาซื้อได้ทั่วไป
– หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ปี ค.ศ. 1950) เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัว ขนมปังและเบเกอรี่เริ่มแพร่หลาย เมล่อนปังจึงถูกผลิตในร้านเบเกอรี่ท้องถิ่นและโรงเรียน
– ช่วงปี ค.ศ. 1970 – 1980 ขนมปังบรรจุถุงพร้อมรับประทานเริ่มขายในร้านสะดวกซื้อ (คอนบินิ) เมล่อนปังจึงกลายเป็นขนมที่เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย
– ปัจจุบัน เมล่อนปังมีการปรับรูปแบบมากมาย เช่น ไส้ครีม, ช็อกโกแลต, คัสตาร์ด, มัทฉะ, เมล่อนจริง, เมล่อนปังยักษ์, เมล่อนปังขนาดมินิ, เมล่อนปังแช่แข็งหรือเมล่อนปังสำหรับอบเองที่บ้าน
บทบาททางวัฒนธรรมของเมล่อนปัง
ต้องบอกว่าเมล่อนปังไม่ใช่แค่ขนมธรรมดาทั่วๆไปอย่างเดียวแล้วครับ เพราะเมล่อนปังยังได้เข้าไปอยู่ในการ์ตูนและอนิเมะ เช่น ตัวละคร メロンパンナちゃん (Melonpanna-chan) ในซีรีส์ Anpanman และในบางเมือง เช่น Kobe และ Saitama มีการโปรโมตเมล่อนปังเป็นของขึ้นชื่อ ในปัจจุบันกลายเป็น “ขนมขวัญใจนักท่องเที่ยว” ที่มักต้องลองเมื่อไปญี่ปุ่นเลยทีเดียวครับ ถือว่ากลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมในหมวดหมู่ขนมหวานก็อาจจะพูดได้ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเรื่อง เมล่อนปัง ที่ผมนำมาฝากทุกท่านในวันนี้ หลายๆท่านคงอยากจะลองชิมว่าเมล่อนปังแท้ๆรสชาติเป็นอย่างไรไหมครับ หากท่านไหนมีแผนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่น ไว้ว่าจะเป็นการไปเที่ยว ไปเรียน หรือไปทำการก็ตามหากมีโอกาสทำไมไม่ลองชิมเมล่อนปังดูหละครับ หากเป็นที่ญี่ผุ่นซึ่งเป็นต้นกำเนิด ผมคิดว่าหลายๆท่านน่าจะเอนจอยกับการกินเมล่อนปังไม่ก็น้อยเลยครับ แต่ก่อนจะไปญี่ปุ่นหากทุกท่านต้องการที่จะใช้ sim internet ที่แรง ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้ตามแพ็คเกจที่ลูกค้าต้องการเลยครับ
🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷
Internet SIM โดยจะมีระยะเวลา 4 วัน 7 วัน 10 วันและ 15 วันครับ ทุกท่านสามารถใช้งานได้แบบอุ่นใจไม่ต้องกลัว internet หมดเพราะตัว SIM เป็นแบบไม่จำกัดปริมาณ (Unlimited) ครับ โดยตัว SIM รองรับทั้ง iOS และ Android ไม่ว่าลูกค้าจะใช้งานโทรศัพท์รุ่นอะไรที่ใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวก็จะสามารถใช้งาน SIM นี้ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ
หากสนใจสามารถคลิกที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ