Price List FAQ Book Now
Page Top

skyberry

ใช้งานอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศต้อง Skyberry

02-105-4568
contact application form

JAPAN

เครปญี่ปุ่นสัญลักษณ์คู่วัฒนธรรมฮาราจุกุ

 

            ตอนที่ซาสึกิไปเที่ยวแถว Takeshita Street  แถวฮาราจุกุ จะเห็นนักท่องเที่ยวกินเครปญี่ปุ่นกันหลายคน อดใจไม่ไหว ไปเดินหาร้านเครปกินด้วย จนเดินไปเจอร้านที่ชื่อว่า Marion Crêpe ร้านสีแดงๆ ประดับไฟสีเหลืองดวงกลมๆ โดดเด่นในซอย Takeshita Street  เดินเข้าไปเรื่อยๆ จะเห็นร้านนี้แต่ไกลเลยค่ะ  

 

 



 

หน้าร้านจะมีตู้โชว์เครปตัวอย่างที่น่ากินมากๆ มีหลายราคาให้เลือก 

 



 

ซาสึกิสั่งเฟรชครีมสตอเบอรี่มากิน ตอนที่ยืนกินแถวร้าน ก็เปิดดูรีวิวของร้านนี้ จนไปเจอประวัติว่า ร้านเครปญี่ปุ่น  Marion Crêpe เปิดมาตั้งแต่ปี 1976 เลยค่ะ สมัยก่อนจะเป็นร้านรถเข็น ในปัจจุบันตั้งเป็นร้านแล้ว เป็นร้านขนมที่อยู่มายาวนานจนถึงปัจจุบัน และถือเป็นร้านแรกที่ทำใหเ้กิดคำว่า เครปญี่ปุ่น ขึ้นมาค่ะ  สุ่มร้านเจอโดยบังเอิญมาก

 

 

 

ทำให้ซาสึกิอยากรู้เพิ่มเติมเลยว่า เครปญี่ปุ่นมีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน จึงได้รวบรวมข้อมูล และมาเล่าให้ผู้อ่านฟังกันค่ะ

 

 

ต้นกำเนิดและการนำเครปเข้าสู่ญี่ปุ่น

เครปมีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศส เป็นอาหารคาว เดิมมีชื่อเรียกว่า กาแลตต์ (Galette) ใช้แป้งบัควีท (Buckwheat) แผ่นเครป

ในปี 1937  เครปถูกนำเข้ามาในญี่ปุ่นครั้งแรก ในเมนูอาหารของโรงแรมอิมพีเรียล (Imperial Hotel) ในกรุงโตเกียว

ในช่วงปี 1970  เครปเป็นเมนูที่รู้จักในเฉพาะกลุ่ม ไม่เป็นที่นิยมในประชาชนทั่วไป เพราะในยุคนั้น เครปถูกนำเสนอในรูปแบบอาหารฝรั่งเศส ทานคู่กับแยม น้ำตาล หรือซอสเนย ซึ่งไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นในยุคนั้น

 

ยุคทองของเครปญี่ปุ่น

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เครปกลายเป็น “เครปญี่ปุ่น” ที่โด่งดังไปทั่วโลกเกิดขึ้นที่ย่าน ฮาราจุกุ (Harajuku) ในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแฟชั่นวัยรุ่น

ในปี 1976  Marion Crêpe เปิดตัวร้านเครปแบบรถเข็นแห่งแรกที่ถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street) ในฮาราจุกุ ทำให้เครปถูกลดระดับจากของหวานราคาแพงในภัตตาคารมาเป็น Street Food ที่เข้าถึงง่าย

ในปี 1979 ร้านคู่แข่งที่ชื่อว่า Blueberry House ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Café Crêpe ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมสำคัญ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากขนม ไอศกรีมโมนาคะของญี่ปุ่นเอง จึงริเริ่มการใส่ ไอศกรีม ครีมสดและผลไม้หั่นชิ้น ลงไปในเครป และม้วนเป็นรูปกรวย เพื่อให้ถือทานได้สะดวก

 

การสร้างสรรค์รูปแบบนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม เพราะ ตรงกับรสนิยมของวัยรุ่นญี่ปุ่น ที่ชื่นชอบความ น่ารัก ความแปลกใหม่ และความสะดวกในการซื้อทานขณะเดินเล่น ทำให้เครปกลายเป็น สัญลักษณ์คู่กับวัฒนธรรมฮาราจุกุ ตั้งแต่นั้นมา

 

เครปญี่ปุ่นแตกต่างจากเครปประเทศอื่นอย่างไร

รูปแบบการนำเสนอ

เครปญี่ปุ่นจะถูกม้วนเป็นรูปกรวย และห่อกระดาษเพื่อให้ลูกค้าสามารถ ถือทานขณะเดินได้สะดวก ซึ่งแตกต่างจากเครปฝรั่งเศส ที่จะเสิร์ฟตัวเครปแบบแบนราบ พับครึ่งหรือสี่เหลี่ยมบนจาน ทานด้วยมีดและส้อม

 

เครปญี่ปุ่นมีไส้มากมาย หลากหลายให้เลือก

ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดของเครปญี่ปุ่น คือ การคิดค้นไส้ให้ทานคู่กับเครปได้อย่างอร่อย

ไส้หลักในเครปญี่ปุ่นที่มักจะพบเห็นคือ ครีมสดที่ตีจนฟูเนื้อเนียนนุ่มๆ ทานคู่กับไอศกรีม ซึ่งให้รสสัมผัสที่เย็นและนุ่มละมุน  มีการนำของหวานอื่นๆ มาใส่เป็น topping เพิ่ม เช่น ชิ้นเค้ก, บราวนี่, พุดดิ้ง, หรือครีมคัสตาร์ด ทำให้เครปหนึ่งชิ้นเหมือนเป็นเค้กสำเร็จรูปที่สามารถถือทานได้

ไม่หมดแค่นี้  ร้านเครปในญี่ปุ่นมักมีเมนูให้เลือกมากกว่า 30-100 ชนิด ทั้งไส้หวานและไส้คาว ซึ่งสะท้อนถึงการนำวัตถุดิบทุกชนิดมาผสมผสานกันอย่างอิสระ คุณลูกค้าชอบกินอะไร อยากกินอันไหนจับคู่ได้ตามใจ

 

เนื้อแป้งและสัมผัสของเครปญี่ปุ่น

แป้งเครปญี่ปุ่นจะค่อนข้าง บางและกรอบกว่า บริเวณขอบเล็กน้อย แต่ยังคงความนุ่มตรงกลาง

แป้งเครปฝรั่งเศส จะนุ่ม ยืดหยุ่น และมีลักษณะคล้ายแพนเค้กที่บางๆ  ทั่วทั้งแผ่น

 

เครปญี่ปุ่นจึงไม่ได้เป็นแค่ของหวาน แต่เป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์และการปรับตัวของอาหาร ที่ทำให้มันสามารถครองใจทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้จนถึงปัจจุบัน

 

 

 

 

ถ้าใครอยากไปกินเครปที่ร้าน  Marion Crêpe เดินทางโดยรถไฟลงที่สถานี Harajuku Station เดินไป Takeshita Street  ประมาณ  4-5 นาทีค่ะ ตลอดทางจะเจอกับกลุ่มผู้คนและนักท่องเที่ยวเดินไป Takeshita Street  ซาสึกิใช้วิธีเดินตามกลุ่มคนไปเรื่อยๆ จนถึงค่ะ  นอกจากร้านเครปที่นี่ยังเป็นแหล่งเสื้อผ้าแฟชั่น ชอปปิ้งได้เพลินๆ ละลายทรัพย์กันเลยค่ะ

 

 

✦•┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈•✦

 

 

 

 

       มีแพลนบินไปญี่ปุ่นใช่ไหมคะ? ✈️ อย่าลืมพก NihonSIM ไปด้วยนะ! ซิมญี่ปุ่นสุดสะดวกที่ให้คุณ เล่นเน็ตได้ไม่อั้น จะดูแผนที่ หารีวิวร้านอาหารอร่อยๆ รองรับสัญญาณแรงระดับ 5G จากเครือข่ายหลักในญี่ปุ่น มีหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบทริปสั้น 3-7 วัน หรือจะอยู่ยาวเป็นอาทิตย์ก็ไม่หวั่น ใช้งานง่าย รองรับทั้ง iOS และ Android

 

 

 

ขอฝากตัวฝากใจ ซิมส์ญี่ปุ่นน้องใหม่ NihonSim by Travesim ด้วยนะคะ

 

สนใจสั่งซื้อ คลิกที่ปุ่มสีส้มด้านล่างได้เลยค่ะ