JAPAN
【เที่ยวญี่ปุ่น】แนะนำเทศกาลในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ปี 2024
ในญี่ปุ่นมีคำกล่าวถึงฤดูใบไม้ร่วงว่า “ฤดูใบไม้ร่วงแห่งความอยากอาหาร” ซึ่งหมายความว่าในฤดูนี้มีพืชผลมากมายให้เก็บเกี่ยว อาหารอร่อยเต็มไปหมด อีกทั้งสภาพอากาศก็ดี ทำให้ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น
ในฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นฤดูแห่งการเก็บเกี่ยว มีการจัดงานเทศกาลมากมายทั่วญี่ปุ่นในหลากหลายภูมิภาค เพื่อแสดงความขอบคุณต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยเทศกาลเหล่านี้มักมีประเพณีดั้งเดิมที่ต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค
ครั้งนี้จะขอแนะนำ 3 เทศกาล ได้แก่ “The fox’s wedding (つねの嫁入り)” ของจังหวัดยามากุจิ, “นางาซากิคุนจิ (長崎くんち)” ของจังหวัดนางาซากิ, และ “เทศกาลคาวาโกเอะ (川越まつり)” ของจังหวัดไซตามะ ซึ่งทั้ง 3 เทศกาลนี้จัดเป็นหนึ่งใน 5 เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงที่สำคัญของญี่ปุ่น และเป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยม หากคุณมีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงนี้ ขอแนะนำให้ลองวางแผนการท่องเที่ยวโดยรวมการเข้าร่วมเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงเหล่านี้เข้าไปด้วย
①The fox’s wedding (つねの嫁入り) ของจังหวัดยามากุจิ
“The fox’s wedding” เป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยตำนานเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จในความรัก จัดขึ้นในพื้นที่ฮานาโอกะ เมืองคุดะมะสึ จังหวัดยามากุจิ เทศกาลนี้เริ่มขึ้นในปีโชวะที่ 25 (ค.ศ. 1950) แม้จะเคยถูกยกเลิกไปเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ปัจจุบันได้กลับมาจัดอีกครั้ง โดยในปี 2024 จะจัดขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน และสามารถเข้าร่วมได้ฟรี
●ที่มาของเทศกาล
เทศกาลนี้จัดขึ้นที่ศาลเจ้าฮานาโอกะฟุคุโตคุอินาริ (Hanaoka Fukutoku Inari Sya) ซึ่งมีตำนานเกี่ยวกับจิ้งจอก ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในวัดโฮโจจิ และมีตำนานแปลกประหลาดที่เป็นต้นกำเนิดของเทศกาลนี้ กล่าวกันว่าในสมัยโบราณ เจ้าอาวาสของวัดโฮโจจิทำลูกประคำหาย และจิ้งจอกคู่หนึ่งได้ส่งคืนลูกประคำนั้นให้ หลังจากนั้นเจ้าอาวาสได้ทำพิธีฝังร่างของจิ้งจอกคู่ดังกล่าวอย่างสมเกียรติ
นับตั้งแต่นั้นมา ผู้คนจำนวนมากได้มาที่วัดเพื่อสักการะ เนื่องจากเชื่อกันว่าหากไปวัดจะสามารถหาสิ่งของที่หายไปหรือสิ่งที่ต้องการได้ ตามตำนานนี้ได้กลายเป็นรูปแบบของขบวนงานแต่งจิ้งจอกที่ส่งต่อมายังปัจจุบัน
ในปัจจุบัน ยังมีแท่นบูชาของจิ้งจอกขาวคู่หนึ่ง ซึ่งมีชื่อของผู้ตายที่เขียนอยู่บนแผ่นไม้ รวมถึงหนังสือบันทึกชื่อผู้ตายที่ยังคงเหลืออยู่ในวัดนี้ด้วย
●เทศกาลนี้เป็นเทศกาลแบบไหน
ในเทศกาลนี้จะมีคู่บ่าวสาวที่สวมหน้ากากจิ้งจอกเดินนำขบวนผู้คนทั้งหมด 500 คนไปทั่วเมือง ซึ่งการที่ผู้เข้าร่วมสวมหน้ากากจิ้งจอกทั้งหมดนั้นถือเป็นเทศกาลที่แปลกตา นอกจากคู่บ่าวสาวแล้ว ยังมีญาติของบ่าว เช่น พ่อและแม่ ซึ่งทุกคนที่มีบทบาท เช่น “เจ้าบ่าว” “เจ้าสาว” “พ่อของเจ้าบ่าว” จะสวมป้ายชื่อที่ติดอยู่บนหน้าอก ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจและมีเอกลักษณ์มาก
ซึ่งนอกจากเจ้าอาวาสและผู้ช่วยแต่งหน้าทำผมแล้ว ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นผู้แสดงบทบาทของคู่บ่าวสาวนี้ เนื่องจากข้อมูลนี้จะถูกเก็บเป็นความลับจากคนรอบข้าง
จุดเริ่มต้นของขบวนจะอยู่ที่ฮานาโอกะฟุคุโตคุอินาริ (Hanaoka Fukutoku Inari Sya) ใกล้วัดโฮโจจิ จากจุดนี้ ขบวนจะเดินไปตามถนนเก่าประมาณ 1.6 กิโลเมตรจนถึงจุดหมายปลายทางที่สถานีฮานาโอกะ
●หากต้องการเข้าร่วมต้องทำยังไง
เทศกาลนี้จัดเป็นงานฟรี สามารถไปปักหลักรอดูขวบนตามเส้นทางที่ขบวนงานแต่งจิ้งจอกจะเดินผ่านได้เลย ในปี 2023 ขบวนเริ่มต้นเวลา 14:00 น. และจะสิ้นสุดประมาณ 16:00 น. อีกทั้งที่สถานีฮานาโอกะ (JP Hanaoka Station) และที่ห้องประชุมฮานาโอกะ (Hanaoka Community Center) ยังมีการจัดกิจกรรมอื่น ๆ ให้เข้าร่วมอีกด้วย
②”นางาซากิคุนจิ (長崎くんち)” ของจังหวัดนางาซากิ
ต่อไปที่จะแนะนำคือเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง “นางาซากิคุนจิ” (長崎くんち) ซึ่งจัดขึ้นที่ศาลเจ้าสึวะ ในจังหวัดนางาซากิ เทศกาลนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ถึง 9 ตุลาคม ปี 2024 โดยมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1634 ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวัฒนธรรมญี่ปุ่น
●ที่มาของเทศกาล
เทศกาล “นางาซากิคุนจิ” มีจุดเริ่มต้นจากการที่หญิงสาวสองคนได้แสดงการเต้นรำถวายที่ศาลเจ้าสึวะในปี ค.ศ. 1634 โดยในสมัยนั้น เจ้าหน้าที่รัฐได้สนับสนุนเทศกาลนี้ ทำให้เทศกาลนี้เติบโตอย่างยิ่งใหญ่และสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน นางาซากิในอดีตเคยเป็นท่าเรือการค้าที่สำคัญและเป็นท่าเรือที่เปิดให้มีการค้าขายกับต่างประเทศเพียงแห่งเดียว ทำให้เมืองนี้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เทศกาลนางาซากิคุนจิยังคงสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมที่หลากหลาย เช่น วัฒนธรรมโปรตุเกส ดัตช์ จีน และเวียดนาม ที่มีอิทธิพลต่อเทศกาลนี้อย่างชัดเจน
●เทศกาลนี้เป็นเทศกาลแบบไหน
ในระยะเวลา 3 วันของเทศกาลนี้ จะมีการแสดง “การเต้นรำถวาย” (奉納踊 หรือ Hounouodori) ที่มีการคิดค้นแนวทางที่หลากหลาย ไม่เพียงแต่ในปีนี้ แต่การแสดงในเทศกาลที่จะจัดขึ้นอีก 6 ปีข้างหน้าได้มีการประกาศออกมาแล้วด้วย เนื่องจากเทศกาลนางาซากิคุนจิมีกฎระเบียบว่ามีเมือง 59 แห่งในเมืองนางาซากิ จะแบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมีเมือง 5-7 แห่งที่รับผิดชอบการแสดงในแต่ละปี ผู้คนจากหมู่บ้านที่รับผิดชอบการเต้นรำจะนำ “คาซะโบโกะ” (傘鉾) หรือ “เสาใหญ่ที่มีร่ม” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้าน เดินไปยังศาลเจ้าสึวะเพื่อแสดงการถวายแด่พระเจ้า
แต่ละหมู่บ้านจะมีการแสดงที่เชี่ยวชาญแตกต่างกัน เช่น การแสดงเรือในแม่น้ำ (川船 หรือ KAWABUNE) และการเต้นรำมังกร (龍踊り หรือ JAODORI) ซึ่งมีหลายหมู่บ้านที่ร่วมแสดง ทำให้สามารถเห็นการแสดงเหล่านี้ได้แทบทุกปีหรือทุกๆ สองสามปี แต่การแสดง “การพ่นน้ำของวาฬ” (鯨の潮吹き หรือ KUJIRA no SHIOHUKI) จะมีเพียงหมู่บ้านเดียวที่ทำการแสดง ซึ่งจะถูกจัดขึ้นประมาณทุก 7 ปีเท่านั้น สำหรับการแสดงการพ่นน้ำของวาฬนั้น เริ่มต้นโดยหมู่บ้าน Yorozuya (万屋町) ในปีค.ศ. 1778 และการแสดงล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วในเทศกาลนางาซากิคุนจิ ซึ่งครั้งต่อไปจะมีการแสดงนี้อีกในอีก 6 ปีข้างหน้า
© NPTA
●หากต้องการเข้าร่วมต้องทำยังไง
มีที่นั่งฟรีจัดเตรียมไว้ แต่เนื่องจากมีการจับฉลากสำหรับผู้ที่จะได้เข้าร่วม และอัตราการแข่งขันค่อนข้างสูง จึงอาจจะต้องเข้าร่วมที่นั่งแบบมีค่าใช้จ่ายที่มีจำหน่ายในแต่ละสถานที่แสดง โดยบัตรเข้าชมที่มีค่าใช้จ่ายจะมีจำหน่ายที่สองสถานที่แสดงที่ตั้งอยู่ในสวนกลางศาลเจ้าสึวะ ส่วนที่นั่งในสถานที่อื่น ๆ จะจำหน่ายเฉพาะทางโทรศัพท์เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีบริษัททัวร์บางแห่งที่รวมการเข้าร่วมเทศกาลนางาซากิคุนจิไว้ในแพ็คเกจทัวร์ด้วย ดังนั้นหากไม่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ สามารถซื้อตั๋วเข้าร่วมผ่านบริษัททัวร์ได้เช่นกัน
③”เทศกาลคาวาโกเอะ (川越まつり)” ของจังหวัดไซตามะ
ต่อไปที่จะแนะนำคือเทศกาล “คาวาโกเอะมัตสึริ” (川越まつり) ซึ่งจัดขึ้นในจังหวัดไซตามะที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต เทศกาลนี้จัดขึ้นใกล้กับสถานี Honkawagoe จึงสามารถเดินทางจากจุดท่องเที่ยวในโตเกียวอย่างชินจูกุได้สะดวกด้วยรถไฟเพียงขบวนเดียว โดยในปี 2024 จะจัดขึ้นในวันที่ 19 (วันเสาร์) และ 20 (วันอาทิตย์) เดือนตุลาคม
●ที่มาของเทศกาล
เทศกาลนี้มีจุดเริ่มต้นจากการที่ในปี ค.ศ. 1648 ได้มีการบริจาค “มิโคชิ” (神輿) หรือแท่นบูชาพระเจ้าที่ศาลเจ้าฮิคาวะ (氷川神社) โดยเจ้าหน้าที่รัฐในสมัยนั้นได้สนับสนุนให้จัดเทศกาลนี้ขึ้น หลังจากนั้น เทศกาลนี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นงานที่มีประชาชนเข้าร่วม ปัจจุบัน ผ่านไปประมาณ 370 ปี เทศกาลคาวาโกเอะมัตสึริยังคงเป็นงานที่สืบทอดวัฒนธรรมของเทศกาลในสมัยเอโดะที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ และยังคงรักษาประเพณีต่าง ๆ มาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน
●เทศกาลนี้เป็นเทศกาลแบบไหน
ภาพของรถลากที่ประดับประดาสวยงามหลายคันเดินขบวนไปตามถนนนั้นสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก จุดเด่นที่สำคัญที่สุดคือช่วงเวลาที่เรียกว่า “ฮิกคาวาเสะ” (曳っかわせ) ซึ่งเป็นช่วงที่รถลากหลายคันถูกยกขึ้นสูงตามจังหวะของกลองและปี่ ในเวลากลางคืน การแสดงฮิกคาวาเสะนี้จะทำให้บรรยากาศของเทศกาลมีความตื่นเต้นและเร้าใจที่สุด
เว็บไซต์หลักของเทศกาลนี้(https://www.kawagoematsuri.jp/thai/index.html) มีภาษาไทยให้อ่านด้วย ซึ่งมีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรถลากที่น่าตื่นเต้นและรายละเอียดต่างๆ ของเทศกาล ทำให้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีแผนเข้าร่วมเทศกาลก็สามารถสนุกกับเทศกาลได้
อีกทั้งที่”คาวาโกเอะมัตสึริ ไคคัง” (川越まつり会館) (https://www.kawagoematsuri.jp/English/museum.html) มีการจัดแสดงรถลากจริงในช่วงเวลาจำกัดแม้จะไม่ใช่ในวันเทศกาล สำหรับในช่วงสุดสัปดาห์อาจมีการแสดงดนตรีบรรเลง (囃子) ด้วย นอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชันที่สามารถแสดงตำแหน่งของรถลากผ่าน GPS ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน iOS และ Android(iOS:https://x.com/kawagoefes_navi Android:https://play.google.com/store/apps/details?id=jp.co.kitel.kawagoematsurinavi&hl=ja)
SNS Official(https://x.com/kawagoefes_navi)
●หากต้องการเข้าร่วมต้องทำยังไง
ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าร่วมงานได้ตามเส้นทางที่รถลากวิ่งผ่าน โดยในบางปี เทศกาลนี้มีผู้เข้าชมประมาณ 1 ล้านคนในระยะเวลา 2 วัน จึงคาดว่าจะมีความแออัดอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีที่นั่งแบบมีค่าใช้จ่ายที่สามารถรับประทานอาหารได้ โดยเมืองคาวาโกเอะเป็นเมืองที่เคยเจริญรุ่งเรืองในสมัยเอโดะ มีสิ่งก่อสร้างเก่าแก่หลงเหลืออยู่มากมาย ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินชมเมือง หากเดินทางจากใจกลางเมืองโตเกียว คุณอาจต้องเผชิญกับความหนาแน่นของผู้คนระหว่างการเดินทาง ดังนั้นการวางแผนที่จะพักค้างคืนในคาวาโกเอะก็เป็นตัวเลือกที่ดี
ไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้อง Nihon SIM : Japan Data Unlimited SIM!
เมื่อคุณวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมตรวจสอบความพร้อมของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต! สำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยว ขอแนะนำให้ใช้ Nihon SIM : Japan Data Unlimited SIM ซึ่งสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปริมาณข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการดูวิดีโอ ไลฟ์สตรีม หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเร็วที่ลดลงในช่วงเวลาสำคัญ!
สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน berrymobile สาขากรุงเทพและสาขาศรีราชา หรือใน Shopee