Price List FAQ Book Now
Page Top

skyberry

ใช้งานอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศต้อง Skyberry

02-105-4568
contact application form

JAPAN

มาทำความรู้จักซูชิกันเถอะ 🍣 (๑ᵔ⤙ᵔ๑ 🥢)

          หากพูดถึงอาหารญี่ปุ่น ทุกคนคงจะนึกถึงซูซิเป็นอันดับแรกๆ เลยก็ว่าได้ นอกจากเป็นอาหารที่นิยมของคนญี่ปุ่นแล้ว สำหรับคนไทยและชาวต่างชาติต่างก็ชื่นชอบไม่แพ้กัน

ต้นกำเนิด ซูชิ มาจากความต้องการที่จะถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น โดยการห่อปลาที่ควักใส้ออกในข้าวหมัก ทำให้สามารถเก็บรักษาปลาไว้ได้หลายเดือน ต่อมาได้มีการพัฒนารูปแบบกันมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นซูชิอย่างทุกวันนี้ และมีรูปแบบที่หลากหลายตามแต่ละภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่น

 

ประเภทของซูชิ

 

1.) นิกิริซูชิ (Nigiri Sushi)

หมายถึง “ซูชิแบบใช้มือปั้น” ทําจากข้าวปั้นก้อนเล็กๆ โปะหน้าด้วยปลาดิบที่ใช้ปลาหลากหลายชนิด รวมทั้งใช้วัตถุดิบอื่นๆ อย่างเช่น กุ้ง ปลาหมึก ไข่หวานญี่ปุ่น (ทามาโกะยากิ) เนื้อดิบหรือเนื้อที่จี่พอสุก และอาจป้ายวาซาบิไว้ระหว่างข้าวและหน้าที่โปะอยู่ด้านบนเพื่อเพิ่มรสชาติ โดยจะต้องรักษาสมดุลย์ของปริมาณข้าว รสชาติของข้าว วาซาบิ และปริมาณเนื้อปลา เป็นศาสตร์อาหารที่ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างเข้มงวด นิกิริซูชิที่เป็นที่นิยมได้แก่

แซลมอนนิกิริ ประกอบด้วยปลาแซลมอนดิบชิ้นหนาโปะบนข้าวที่ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู หรือคนที่ไม่ชอบกินเนื้อปลาดิบ ก็อาจรับประทานในรูปแบบ “อาบูริ” ที่เอาปลาแซลมอนไปย่างไฟเร็วๆ ก่อนเสิร์ฟ

มากุโระนิกิริ หรือ ปลาทูน่านิกิริ เป็นหนึ่งในปลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีหลายประเภทตามสายพันธุ์และเนื้อปลาส่วนต่างๆ ทําให้ปลาทูน่านิกิริมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย เช่น ปลาทูน่านิกิริที่ผอมที่สุดเรียกว่า “อาคามิ” ซึ่งโดยทั่วไปจะมีสีแดงและเนื้อสัมผัสเหนียว “Chutoro” เป็นปลาทูน่าที่อ้วนกว่าและมีสีอ่อนกว่าเล็กน้อย เนื้อส่วนท้องปลาเรียกว่า “Otoro” เนื้อจะมีสีชมพูเข้มเป็นบริเวณที่มีไขมันแทรกเยอะที่สุด โดยมีลักษณะคล้ายลายหินอ่อน จึงมีความนุ่ม ละลายในปาก

 

 

 

2.) มากิซูชิ (Maki Sushi)

หมายถึง “ซูชิม้วน” หรือ “Sushi Roll” ซึ่งเรียกจากวิธีที่ทำซูชิชนิดนี้ โดยเริ่มจากการวางส่วนผสมต่างๆ จัดเรียงบนข้าวปั้นและชั้นล่างสุดเป็นสาหร่ายแผ่นที่เรียกว่า “โนริ” วางบนเสื่อไม้ไผ่ จากนั้นก็ม้วนให้เป็นแท่งยาวแล้วหั่นเป็นชิ้นเท่าๆ กัน

ฟุโตมากิ (Futomaki) หมายถึง “ซูชิที่ม้วนหนา” โดยใส่ไส้รวมหลากหลายชนิด ปกติจะใส่แตงกวา หัวไชเท้าดอง ไข่ม้วน และเห็ดหอม ฟุโตมากิเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น ที่มักจะนำไปรับประทานในงานเทศกาล หรือเป็นส่วนหนึ่งของอาหารในกล่องเบนโตะ

 

 

 

 โฮโซมากิ (Hosomaki) หมายถึง “ซูชิที่ม้วนบาง” มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของฟุโตมากิ ถือเป็นมากิซูชิแบบพื้นฐานที่ใส่ไส้เพียงแค่ 1-2 อย่าง เช่น แตงกวา ปลาแซลมอน ปลาทูน่า หรือปูอัด เป็นมากิซูชิที่ขนาดเล็กที่สุด

 

 

 

3.) อุรามากิซูชิ (Uramaki Sushi)

มีความคล้ายมากิซูชิหลายอย่าง แต่ความแตกต่างคืออุรามากิจะม้วนด้านในออกด้านนอก โดยมีข้าวอยู่ด้านนอก ตามด้วยแผ่นโนริและไส้ตรงกลาง ซึ่งมีไส้ให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่อาหารทะเลปรุงสุกและดิบ ผัก

 

 

 

 

4.) เทมากิซูชิ (Temaki Sushi)

หมายถึง “ซูชิที่ม้วนด้วยมือ” สามารถทำได้ง่ายโดยการใส่ข้าวบนแผ่นโนริ แล้วใส่อาหารทะเล 1-2 ประเภท เช่น ปลาแซลมอนหรือทูน่า รวมทั้งผักอย่างอะโวคาโด แตงกวา และใบผักกาดหอม จากนั้นนำแผ่นโนริมาม้วนด้วยมือให้เป็นรูปทรงกรวยและรับประทานได้เลย

 

 

 

 

5.) กุงกังมากิซูชิ (Gunkanmaki Sushi)

กุงกัง แปลว่า ‘เรือ’ ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเปรียบเหมือนลักษณะของซูชิประเภทนี้ที่คล้ายกับเรือรบ เป็นซูชิที่ใช้สาหร่ายห่อข้าวที่วางเป็นฐานไว้ แล้วโรยหน้าด้านบนที่ไม่สามารถวางบนนิกินิซูชิได้ อย่างเช่น ไข่หอยเม่น (อุนิ) ไข่ปลาแซลมอน (อิคุระ) ปลาทูน่าปรุงรส หรือสลัดต่าง ๆ

 

 

 

 

6.) ชิราชิซูชิ (Chirashi-zushi)

หมายถึง “ซูชิที่กระจัดกระจาย” ประกอบด้วยชามซูชิที่มีข้าวคลุกน้ำส้มสายชู ปลาดิบและส่วนผสมอื่นๆ ชนิดของปลาดิบที่ใช้แตกต่างกันไปแต่ที่นิยมมากสุดคือปลาแซลมอนและปลาทูน่า นอกจากนี้มักจะโรยหน้าด้วยไข่ฝอย โนริ และไข่ปลาแซลมอนด้านบน เพื่อรสชาติที่ชวนน้ำลายสอและมีสีสัน

 

 

 

 

7.) อินาริซูชิ (Inari Sushi)

ซูชิห่อในเต้าหู้ ที่นำข้าวปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชูมายัดลงในเต้าหู้หวานทอดที่มีลักษณะเป็นถุงสี่เหลี่ยม ชื่อ อินาริ มาจากเทพจิ้งจอกอินาริที่มีเชื่อกันว่าชอบเต้าหู้ทอดนี้ นอกจากนี้เทพอินาริยังเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ พืชพรรณธัญญาหารและข้าวอีกด้วย

 

 

 

 

8.) โอชิซูชิ (Oshi-zushi)

คำว่าโอชิ (押し) แปลว่า กดหรืออัด ซึ่งเรียกตามกรรมวิธีที่ใช้ทำซูชิชนิดนี้ โดยการนำเอาข้าวผสมน้ำส้มสายชูอัดลงในกล่องทรงสี่เหลี่ยม วางด้านบนด้วยเนื้อปลาแล้วกดให้แน่นติดกัน มีลักษณะตามทรงของกล่องที่อัดข้าวลงไป ก่อนรับประทานจะตัดเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำตามรูปทรงที่ต้องการ เช่น ตัดเป็นสี่เหลี่ยม หรือสามเหลี่ยม โอชิซูชิมีหลายประเภท เช่น โคเคระซูชิ (Kokera sushi) ของแถบจังหวัดโคจิ จะใส่ปลา แครอทและเห็ดหอมซ้อนกันหลายชั้นแล้วตัดเป็นชิ้นเล็กทีละชั้น หรือฮาโกะซูชิ (Hako sushi) ของแถบโอซาก้าที่นำมาซ้อนกัน 2-4 ชั้น เป็นต้น

 

 

 

 

วิธีรับประทานซูชิแบบคนญี่ปุ่น

รับประทานด้วยตะเกียบ

จับตะเกียบแบบสบายๆ โดยใช้ตะเกียบคีบซูชิจากตรงกลาง ให้นำด้านบนที่เป็นเนื้อปลาจิ้มลงไปในโชยุประมาณหนึ่งในสามหรือครึ่งหนึ่งของชิ้นปลา

รับประทานซูชิด้วยมือ

สำหรับใครที่ไม่ถนัดใช้ตะเกียบ ก็สามารถใช้มือได้หยิบจับซูชิได้ ด้วยการพลิกซูชิด้วยนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลางเพื่อให้ส่วนของปลาสัมผัสกับลิ้น

 

เครื่องเคียง 3 อย่าง สำหรับกินกับซูชิ

โชยุ  เราจะเทโชยุลงในจานกลมเล็กๆ แล้วจึงคีบหรือใช้มือหยิบซูชิมาจิ้มกับโชยุก่อนรับประทาน
วาซาบิ  นิกิริซูชิส่วนใหญ่มาพร้อมกับวาซาบิ เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยของซูชิ
ขิงดอง  ทำมาจากขิงหั่นบาง ๆ ดองในน้ำส้มสายชูหวาน มีรสเปรี้ยวอมหวาน จะช่วยล้างรสชาติของซูชิที่รับประทานไปก่อนหน้า เพื่อให้ต่อมรับรสในปากพร้อมรับรับรสชาติของซูชิชิ้นถัดไป นอกจากนี้ขิงดองยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อและช่วยป้องกันอาหารเป็นพิษ ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าโชกะหรือวาการิ

 

เคล็ดลับและมารยาทในการรับประทานซูชิ

1.) เราสามารถรับประทานซูชิโดยใช้มือหรือตะเกียบก็ได้ ยกเว้นซาซิมิที่ใช้ตะเกียบคีบเท่านั้น
2.) เพื่ออรรถรสในการรับประทานซูชิ แนะนำให้เรียงลำดับการรับประทานจากปลาที่มีรสชาติอ่อนไปยังปลาที่มีรสชาติมากขึ้น โดยเรียงจากปลาสีอ่อนสุดไปจนเข้มสุด และตามด้วยซูชิหน้าไข่ปลา หรือไข่หอยต่าง ๆ ต่อด้วยของย่าง และจบที่ไข่หวาน
3.) การรับประทานซูชิหน้าปลาหมึกให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม โดยการบีบมะนาวแล้วจิ้มเกลือ แทนการจิ้มกับโชยุ
4.) การรับประทานซูชิหน้าไข่ปลาให้ไข่ปลาไม่ตกลงไปในโชยุ โดยการใช้ขิงดองจิ้มโชยุแล้วนำมาทาบนไข่ปลาแทนการนำซูชิไปจิ้มในโชยุ
5.) ดื่มชาเพื่อทำความสะอาดเพดานปากและทำให้ปากสดชื่น ซึ่งชายังทำหน้าที่เป็นสารต้านแบคทีเรียด้วย
6.) ควรรับประทานซูชิให้หมดในคำเดียว เพื่อรับรสชาติที่กลมกล่อมของข้าวและส่วนผสมไปพร้อมกัน
7.) ควรรับประทานซูชิทันทีที่เสิร์ฟ เพื่อลิ้มรสชาติที่สดใหม่ โดยเฉพาะซูชิหน้าสาหร่าย
8.) ถ้าคุณไม่ชอบวาซาบิ ควรแจ้งเชฟล่วงหน้า เพราะซูชิเกือบทุกชิ้นจะแต้มวาซาบิไว้ระหว่างข้าวกับปลา และในทางกลับกัน หากคุณชอบวาซาบิจริงๆ คุณสามารถขอเพิ่มได้

 

 

เดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อไหร่ อย่าลืมไปลิ้มรสชาติซูชิแบบต้นตำหร้บที่ญี่ปุ่นกันนะคะ และทุกการเดินทางเพื่อความอุ่นใจเราอยากแนะนำซิมการ์ดสำหรับใช้งานประเทศญี่ปุ่น ที่ใช้อินเตอร์เน็ตได้ไม่จำกัดปริมาณ เช็คอิน อัปเดตโซเชียล ดูแผนที่ได้ไม่มีสะดุดด้วย Nihon SIM และ Skyberry Pocket WiFi ค่ะ

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : livejapan.combyfood.commasterclass.comhttps://allianz-assistance.co.th/travel/types-of-sushi/