JAPAN
เมื่อภาพแทนคำ ประวัติ 絵文字 (Emoji) ที่คุณอาจไม่เคยรู้
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึงต้นกำเนิด emoji และความหมายของคำว่า emoji กันค่ะ
ต้นกำเนิด
ก่อนอื่นเลย อีโมจิ ถูกคนคิดค้นโดยคนญี่ปุ่น และคำว่าอีโมจินั้นมาจากภาษาญี่ปุ่น คือ 絵 (え, อ่านว่า เอะ แปลว่า รูปภาพ และ 文字 (もじ อ่านว่าโมจิ แปลว่า ตัวอักษร/สัญลักษณ์ รวมกันแปลตรงตัวว่า “ตัวอักษรภาพ” หรือ “ภาพแทนความหมาย” นั่นเองค่ะ
ในปี 1999 อีโมจิชุดแรกถูกสร้างขึ้นโดยคุณชิเกตากะ คุริตะ นักออกแบบชาวญี่ปุ่นที่ทำงานกับบริษัท NTT DoCoMo (ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของญี่ปุ่น) จุดประสงค์คือเพื่อทำให้การสื่อสารผ่านข้อความสั้น SMS และอีเมลบนมือถือระบบ i-mode สนุก และเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะพื้นที่ข้อความมีจำกัด โดยการออกแบบครั้งนี้ มีอีโมจิชุดแรก จำนวน 176ตัว โดยใช้แรงบันดาลใจจากไอคอนบนถนน และป้ายต่างๆ มังงะ (การ์ตูนญี่ปุ่น) ที่ใช้สัญลักษณ์ง่ายๆ แทนความรู้สึก เช่น เหงื่อ 💦 หรือเส้นที่หัว 😡และต่อมา emoji ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น และแพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อ Apple เพิ่ม emoji ลงใน iPhone (ปี 2008–2011) และ Google/Android รองรับตามมาค่ะ
ความแตกต่าง Emoji vs Emoticon
Emoticon → การใช้ตัวอักษรบนคีย์บอร์ดสร้างหน้าอารมณ์ เช่น 🙂 ;( ^_^
Emoji → สัญลักษณ์กราฟิกจริง ๆ ที่ออกแบบมาให้เห็นเป็นภาพ เช่น 😀 😭 🍣 ✈️
ลักษณะของอีโมจิชุดแรก
เน้นสิ่งที่คนใช้ชีวิตประจำวันต้องเจอ เช่น
สภาพอากาศ: ☀️ 🌧️ ❄️ ☁️
อารมณ์/ความรู้สึก: 😀 😡 😢 😍
กิจกรรม/สิ่งของ: ⚽ 🎵 🚗 🚑 📞
สัญลักษณ์ทั่วไป: ⭕ ✖️ ⛔
ความสำคัญ
ถือเป็น จุดกำเนิดของวัฒนธรรม emoji ที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน
ต่อมาถูกพัฒนาและเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเข้าสู่ระบบ Unicode (2010) ทำให้ทุกแพลตฟอร์มทั่วโลกใช้อีโมจิได้เหมือนกัน
emoji เริ่มแพร่หลาย และมีการเพิ่มเติมตอนช่วงไหน
ยุคแรกในญี่ปุ่น (1999–2006)
Emoji มีเฉพาะในมือถือญี่ปุ่น (NTT DoCoMo, au, SoftBank)
แต่ละค่ายออกแบบ emoji ของตัวเอง ไม่สามารถใช้ข้ามเครือข่ายได้
เริ่มสู่สากล (2007–2010)
Apple (2007) เปิดตัว iPhone → มี emoji แฝงอยู่ในระบบ iOS แต่ยังซ่อนเมนูไว้
ปี 2008–2011 → Apple เปิดใช้งาน emoji keyboard จริงจังสำหรับผู้ใช้ในญี่ปุ่น → ทำให้คนทั่วโลกสนใจ
Google ก็เริ่มพัฒนา emoji สำหรับ Android ช่วงปี 2007–2009
เข้าสู่ Unicode (2010)
Unicode Consortium ซึ่งเป็นองค์กรกลางกำหนดมาตรฐานตัวอักษรของโลก ได้เพิ่ม emoji เข้าใน Unicode Standard ครั้งแรก ปี 2010 (เวอร์ชัน 6.0) ทำให้ emoji กลายเป็น มาตรฐานสากล → สามารถแสดงผลเหมือนกันบนทุกแพลตฟอร์ม (Apple, Android, Microsoft, web) รุ่นแรกใน Unicode มีประมาณ 722 ตัว
ยุคการขยายตัว (2011–ปัจจุบัน)
Apple iOS 5 (2011) เปิด emoji keyboard สำหรับผู้ใช้ทั่วโลก → จุดเริ่มต้นที่ทำให้ emoji ฮิตระดับโลก 🌍
ทุกปี Unicode Consortium จะเพิ่ม emoji ใหม่ตามคำร้องจากสังคม เช่น
1.ความหลากหลายทางเพศและเชื้อชาติ (👩❤️👩 👨🏿🤝👨🏻)
2.ธงประเทศ 🏳️🌈
3.อาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่น 🍣 🥟 🥥
ปัจจุบัน (2025) มี emoji มากกว่า 3,600 ตัวเลยค่ะ
แล้ว Unicode คืออะไร?
Unicode ไม่ใช่คน แต่เป็น องค์กรและมาตรฐาน ที่กำหนดวิธีการแทนตัวอักษรและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ของทุกภาษาให้คอมพิวเตอร์เข้าใจเหมือนกันทั่วโลก จัดทำโดย Unicode Consortium ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร สมาชิกขององค์กรมีบริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง เช่น Apple, Google, Microsoft, Adobe เป็นต้น หน้าที่หลักคือทำให้ตัวอักษร, อีโมจิ, และสัญลักษณ์ต่าง ๆ ใช้ได้ ข้ามระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม
มาตรฐาน Unicode คืออะไร?
มาตรฐาน คือชุดกฎหรือข้อตกลงที่ทำให้ทุกคน “เข้าใจตรงกัน”
Unicode Standard กำหนดว่าแต่ละตัวอักษรหรือสัญลักษณ์จะมี รหัสตัวเลขเฉพาะ (code point)
เช่น ตัวอักษร A มีรหัส U+0041
อีโมจิ 😃 มีรหัส U+1F603
ประโยชน์คือ ถ้าไฟล์ตัวอักษรถูกส่งจากเครื่อง Windows ไปเครื่อง Mac หรือมือถือ Android ก็ยังอ่านได้ถูกต้อง และ ทำให้ภาษาและสัญลักษณ์จากทั่วโลกทำงานร่วมกันได้นั่นเองค่ะ
หากท่านมีแพลนที่จะไปท่องเที่ยวเร็วๆนี้ละก็ ทางเราขอแนะนำ NihonSIM ซิมส์ญี่ปุ่น ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ไม่จำกัด รองรับสัญญาณสูงสุด 5G ของเครือข่ายประเทศญี่ปุ่น มีหลายแบบให้เลือก เหมาะสำหรับผู้เดินทางทั้งระยะสั้นและระยะยาว ไม่ต้องกังวลว่าอินเตอร์เน็ตจะหมดกลางทาง ใช้งานง่าย รองรับทั้งระบบ IOS และ Android
ขอฝากซิมส์ญี่ปุ่นน้องใหม่ NihonSim by Travesim ด้วยนะคะ สนใจสั่งซื้อ คลิกที่ปุ่มสีส้มด้านล่างได้เลยค่ะ
หรือหากเดินทางกันหลายท่าน แนะนำเป็น Skyberry pocket wifi 7วัน 599บาท
สนใจคลิ๊กที่รูปเพื่อแอดไลน์เพื่อสอบถามกับแอดมินได้เลยนะคะ
ตอบโจทย์ทุกสาย ไม่ว่าจะสายท่องเที่ยว ค้นหาเส้นทาง เปิดMap, สาย Content ที่ชอบถ่ายคลิป ไลฟ์สด หรือ Streaming
ระยะเวลาโปรโมชั่น วันนี้ – 31 ธันวาคม 2568
การจัดส่ง ส่งฟรีทั่วไทย เฉพาะแพ็กเกจนี้เท่านั้น
หากลูกค้าสนใจสามารถ add line : @skyberry ได้เลยนะคะ