
JAPAN
ที่มาของเล่นญี่ปุ่นโบราณ
คุณผู้อ่านเคยเห็นลูกบอลกลมๆ แบบในรูปไหมคะ?
สิ่งนี้เป็นของเล่นญี่ปุ่นโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยนาราและเฮอัน เมื่อนานมาแล้ว ในปัจจุบันยังพอได้เห็นอยู่ได้บ้าง บทความนี้จะย้อนไปจุดกำเนิดของเล่นญี่ปุ่นโบราณกันค่ะ
ยุคแรกเริ่มของเล่นญี่ปุ่นโบราณ
ยุคสมัยนาราและเฮอันช่วงปี ค.ศ. 710 – ค.ศ. 118 ของเล่นในยุคนี้มักได้รับอิทธิพลจากจีนและเกาหลี ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้และดินเหนียว มักใช้ในพิธีกรรมหรือเป็นเครื่องราง เช่น ลูกข่าง (โคมะ) และลูกบอลผ้า (เทมาริ) เริ่มมีการเล่นกันในหมู่ชนชั้นสูงในสมัยนั้น
โคมะ (こま / 独楽) หรือลูกข่างญี่ปุ่น เป็นของเล่นที่ถูกทำขึ้นอย่างประณีตเพราะมีการวาดลวดลายให้สวยงาม เมื่อหมุนแล้วจะเห็นเป็นสีสันต่างๆ ลูกข่างบางประเภทก็ถูกนำมาใช้เล่นต่อสู้กันเพื่อผลักให้อีกฝ่ายออกนอกวง
เทมาริ (手毬) หรือลูกบอลผ้าญี่ปุ่น สมัยก่อนทำจากเศษผ้า เศษกิโมโนเก่าหรือผ้าไหมเก่า นำมาอัดเป็นก้อนกลม แล้วห่อด้วยผ้า ในอดีตเป็นของเล่นยอดนิยมสำหรับเด็กผู้หญิง ในปัจจุบันก็ยังถูกใช้เป็นงานฝีมือและของตกแต่งบ้าน
ยุคสมัยคามาคุระและมุโรมาจิในช่วง ค.ศ. 1185 – ค.ศ. 1573 ของเล่นเริ่มแพร่หลายมากขึ้นในหมู่ประชาชนทั่วไป มีการเล่นลูกข่าง การเล่นหมากเก็บ และการละเล่นที่ใช้ไม้และเชือก ของเล่นเหล่านี้มักทำขึ้นเองในครอบครัว
เบย์โกมะ (べいごま) เป็นลูกข่างเหล็กขนาดเล็กที่ใช้เล่นต่อสู้กัน โดยการพันเชือกแล้วปล่อยให้ลูกข่างชนกันเพื่อให้อีกฝ่ายหยุดหมุนหรือกระเด็นออกนอกวง
โอเทดามะ (お手玉) หรือการเล่นหมากเก็บแบบญี่ปุ่นจะใช้ถุงผ้าเล็กๆ ที่เย็บเป็นรูปทรงต่างๆ และข้างในบรรจุถั่วแดงหรือเม็ดถั่วลิสงแทนก้อนหิน ผู้เล่นจะโยนถุงผ้าขึ้นไปและเก็บถุงผ้าที่อยู่บนพื้นตามกติกา เป็นการละเล่นที่ฝึกความคล่องแคล่วของมือและสายตา
เคนดามะ (けん玉) เป็นของเล่นไม้ที่มีลูกบอลผูกติดด้วยเชือก ผู้เล่นจะต้องโยนลูกบอลให้ลงในถ้วยต่างๆ หรือเสียบเข้ากับปลายแหลมของด้ามจับ
อายาโทริ (あやとり) การเล่นพันด้ายที่ใช้เชือกหรือด้ายมาพันรอบนิ้วเพื่อสร้างเป็นรูปทรงต่างๆ เช่น รูปดาว, รูปสะพาน หรือรูปสัตว์ เป็นการละเล่นที่ฝึกสมาธิและความคิดสร้างสรรค์
ยุคทองของของเล่นโบราณอยู่ในช่วงสมัยเอโดะ ช่วงปี ค.ศ. 1603 – ค.ศ. 1868
ยุคเอโดะเป็นช่วงที่ของเล่นญี่ปุ่นโบราณมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง เนื่องจากบ้านเมืองสงบสุขและเศรษฐกิจขยายตัว ทำให้ประชาชนมีเวลาและกำลังซื้อมากขึ้น ของเล่นถูกผลิตขึ้นอย่างแพร่หลายและมีหลากหลายรูปแบบ
แล้วยังมีของเล่นตามฤดูกาลและเทศกาล เพื่อใช้ในเทศกาลต่างๆ เช่น
เทศกาลฮินะมัตสึริ (เทศกาลตุ๊กตา) มีการประดิษฐ์ตุ๊กตาฮินะ ซึ่งเป็นตุ๊กตาจักรพรรดิและจักรพรรดินีเพื่ออธิษฐานให้ลูกสาวมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง
วันเด็กผู้ชาย (ปัจจุบันคือวันเด็กผู้หญิงและวันเด็กชาย): มีการทำตุ๊กตานักรบ (มุฉะ-นินเกียว) และธงปลาคาร์ป (โคอิโนโบริ) เพื่ออวยพรให้เด็กผู้ชายแข็งแรงและกล้าหาญ
ของเล่นเพื่อการเรียนรู้และฝึกทักษะ:
ฮาโกอิตะ (羽子板) ไม้ตีลูกขนไก่ที่ใช้เล่นเกมฮาเน็ตสึกิ (Hanetsuki) ซึ่งคล้ายแบดมินตันแบบไม่มีตาข่าย ผู้เล่นจะใช้ไม้ตีลูกขนไก่ที่ทำจากขนนกและไม้ให้ลอยอยู่ในอากาศ ฮาโกอิตะมักถูกตกแต่งด้วยภาพวาดหรือการปักที่สวยงาม และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องประดับในเทศกาลปีใหม่
ของเล่นที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ:
โอเกียการิโคโบชิ (起き上がり小法師) ตุ๊กตาล้มลุกที่ใช้เป็นเครื่องรางแห่งความมุ่งมั่นและความอุตสาหะ เพราะไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งก็สามารถลุกขึ้นมาได้ จึงถูกใช้เป็นเครื่องรางแห่งความเพียรพยายามและความมุ่งมั่น
โคเคชิ (こけし, 小芥子) หรือตุ๊กตาไม้จากภูมิภาคโทโฮคุ ตุ๊กตาไม้ที่มีส่วนหัวและลำตัวทรงกระบอก ไม่มีแขนขา มีการวาดลวดลายบนลำตัว ตุ๊กตาโคเคชิมักถูกทำโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ เดิมทีทำขึ้นเพื่อเป็นของที่ระลึกสำหรับผู้ที่มาแช่น้ำพุร้อน และเชื่อว่าเป็นเครื่องรางนำโชคและป้องกันภูตผีปีศาจ
ยุคเมจิ ช่วงปี ค.ศ. 1868 – ค.ศ. 1912 และยุคไทโช ช่วงปี ค.ศ. 1912 – ค.ศ. 1926
ในยุคนี้ ญี่ปุ่นเริ่มเปิดรับอารยธรรมตะวันตกมากขึ้น ของเล่นจากต่างประเทศเริ่มเข้ามาในประเทศ แต่ของเล่นโบราณก็ยังคงได้รับความนิยม มีการผลิตและพัฒนาของเล่นดั้งเดิมให้มีความซับซ้อนและทันสมัยมากขึ้น
ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
หลังสงคราม ของเล่นโบราณบางส่วนถูกแทนที่ด้วยของเล่นสมัยใหม่ที่ทำจากพลาสติกและโลหะ แต่ก็ยังมีหลายองค์กรและช่างฝีมือที่พยายามอนุรักษ์และสืบทอดการทำของเล่นแบบดั้งเดิม ทำให้ของเล่นเหล่านี้ยังคงมีคุณค่าและถูกยกย่องว่าเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบันค่ะ
ของเล่นโบราณเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ของเล่นสำหรับเด็ก หากแต่เป็นเสมือนเรื่องเล่าที่บรรพบุรุษได้ฝากไว้ให้คนรุ่นหลัง พวกมันสะท้อนวิถีชีวิตและจิตวิญญาณของคนญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่ของเล่นเหล่านี้ยังคงได้รับความรักและคุณค่าในฐานะของสะสมและของที่ระลึกอันทรงความหมาย และยังเป็นหลักฐานแห่งความตั้งใจของคนญี่ปุ่นที่จะรักษาและสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิมให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน
✦•┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈•✦
มีแพลนบินไปญี่ปุ่นใช่ไหมคะ? ✈️ อย่าลืมพก NihonSIM ไปด้วยนะ! ซิมญี่ปุ่นสุดสะดวกที่ให้คุณ เล่นเน็ตได้ไม่อั้น จะดูแผนที่ หารีวิวร้านอาหารอร่อยๆ รองรับสัญญาณแรงระดับ 5G จากเครือข่ายหลักในญี่ปุ่น มีหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบทริปสั้น 3-7 วัน หรือจะอยู่ยาวเป็นอาทิตย์ก็ไม่หวั่น ใช้งานง่าย รองรับทั้ง iOS และ Android
ขอฝากตัวฝากใจ ซิมส์ญี่ปุ่นน้องใหม่ NihonSim by Travesim ด้วยนะคะ
สนใจสั่งซื้อ คลิกที่ปุ่มสีส้มด้านล่างได้เลยค่ะ