JAPAN
การโค้งของคนญี่ปุ่น: ศิลปะแห่งความเคารพที่มากกว่าท่าทาง
สวัสดีครับทุกท่าน ถ้าพูดถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ ผมคิดว่าสิ่งหนึ่งที่ทุกท่านน่าจะจดจำได้เป็นอันดับต้นๆก็คือ “การโค้ง” (お辞儀 (Ojigi)) ไม่ว่าจะเป็นการทักทาย การขอบคุณ หรือแม้กระทั่งการขอโทษ การโค้งถือว่าเป็น “ภาษากาย” ที่สะท้อนความสุภาพและความเคารพของชาวญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้งและมีเอกลักษณ์มากกว่าการใช้คำพูดเลยทีเดียวครับ และวันนี้นี้ผมจะขอพาทุกท่านมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการโค้งของคนญี่ปุ่นแบบละเอียด ตั้งแต่ประเภท วิธีการปฏิบัติ ไปจนถึงความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเลยทีเดียวครับ ว่าแล้วผมว่าไปเริ่มกันเลยครับ
แล้วทำไมการโค้งจึงสำคัญในวัฒนธรรมญี่ปุ่นหละ?
ต้องบอกก่อนเลยว่าญี่ปุ่นเป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับมารยาทและความเคารพต่อผู้อื่น ดังนั้นการโค้งจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสุภาพ ความจริงใจ และการถ่อมตัว ไม่ว่าจะอยู่ในชีวิตประจำวัน ธุรกิจ หรือพิธีการต่างๆ ทุกท่านจะเห็นการโค้งปรากฏอยู่เสมอๆนั่นเองครับ และการโค้งเองนั้นก็ไม่ได้มีความหมายเดียวนะครับ แต่ยังสามารถใช้แทนการสวัสดี การขอบคุณ การขอโทษ การยินดีที่ได้รู้จัก หรือแม้กระทั่งการแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยครับ
ประเภทของการโค้ง
เรามาทำความรู้จักกับประเภทของการโค้งกันครับ โดยทั่วไปแล้วการโค้งของคนญี่ปุ่นแบ่งออกเป็น 3 ระดับหลักๆตามความลึกของการโค้งและความเป็นทางการครับ
1. เอชาคุ (会釈 (Eshaku))
จะทำการโค้งแบบก้มศีรษะลงเล็กน้อยประมาณ 15 องศา จะใช้ในการทักทายทั่วไป เช่น พบเพื่อนร่วมงาน ขอบคุณเล็กน้อย หรือทักคนที่เดินสวนกันครับ เป็นการแสดงออกแบบสุภาพแต่ไม่เคร่งครัดหรือเป็นทางการสักเท่าไหร่ครับ
2. เคย์เร (敬礼 (Keirei))
จะทำการโค้งแบบก้มศีรษะลึกขึ้นมาประมาณ 30 องศา จะใช้ในสถานการณ์กึ่งทางการ เช่น ต้อนรับลูกค้า แนะนำตัว หรือกล่าวขอบคุณในเชิงธุรกิจครับ เป็นการแสดงความสุภาพจริงจัง เห็นบ่อยในร้านค้าและออฟฟิศบริษัทญี่ปุ่นครับ
3. ไซเคย์เร (最敬礼 (Saikeirei))
จะทำการโค้งแบบก้มศีรษะลึก 45 องศาถึง 70 องศา จะใช้ในโอกาสที่ต้องการแสดงความเคารพสูงสุด เช่น การขอโทษอย่างจริงใจ การเข้าศาลเจ้า หรือการพบผู้ใหญ่คนสำคัญครับ เป็นการโค้งที่สะท้อนความนอบน้อมอย่างที่สุดครับ
วิธีโค้งที่ถูกต้อง
จริงๆแล้วนอกจาการโค้งที่ถูกต้องแล้ว ยังมีสิ่งที่ต้องปฏิบัติร่วมกับการโค้งเพื่อเพิ่มความนอบน้อมและสุภาพมากยิ่งขึ้นครับ
– ท่ายืน : ยืนตรง เท้าชิด แขนแนบลำตัว (ถ้าเป็นผู้หญิงให้วางมือทับกันด้านหน้า)
– การก้ม : ก้มจากเอว ไม่ใช่แค่ศีรษะ เพื่อให้ดูสุภาพ
– สายตา : มองลงตามองศาของการโค้ง ไม่เหลือบตามองฝ่ายตรงข้ามหรือคู่สนทนา
– จังหวะ : ให้ก้มลงและค้างไว้ประมาณ 1 – 2 วินาที แล้วค่อยๆเงยขึ้นอย่างนุ่มนวล
ตัวอย่างในชีวิตจริง
จากนี้ผมจะขออนุญาตยกตัวอย่างการใช้การโค้งในชีวิตจริงที่ทุกท่านน่าจะพบเจอกันได้บ่อยๆในสังคมญี่ปุ่นครับ
– ทักเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน : ใช้การโค้งแบบเอชาคุ
– ต้อนรับลูกค้าในร้าน : ใช้การโค้งแบบเคย์เร
– ผู้บริหารออกมาขอโทษสังคมในงานแถลงข่าว : ใช้การโค้งแบบไซเคย์เร
– เข้าสักการะศาลเจ้า : มักจะใช้การโค้งลึก 2 ครั้งตามธรรมเนียมชินโต
รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ
ผมจะขออนุญาตเพิ่มเติมรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอีกสักนิดเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้เป็นธรรมชาติครับ
– ผู้ชายมักปล่อยแขนแนบลำตัว
– ผู้หญิงมักวางมือซ้อนกันเหนือหน้าขา
– ไม่ควรพูดขณะโค้ง ควรโค้งให้เสร็จก่อนแล้วจึงพูด
– แม้ชาวต่างชาติจะโค้งไม่ถูกต้อง 100% คนญี่ปุ่นก็จะรู้สึกดีเพราะเห็นถึง “ความตั้งใจ” เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวล
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับข้อมูลของการโค้งที่ผมนำมาให้อ่านกันในวันนี้ จะเห็นได้ว่าการโค้งนั้นไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่ทำตามธรรมเนียม แต่การโค้งนั้นยังสะท้อนและแสดงออกถึงหัวใจของความสุภาพและความจริงใจที่ฝังรากลึกในสังคมญี่ปุ่น ดังนั้นการที่เราเข้าใจความหมายและวิธีโค้งที่ถูกต้องนั้นไม่เพียงทำให้เราสื่อสารกับคนญี่ปุ่นได้ดีขึ้น แต่ยังเป็นการเรียนรู้ถึงสิ่งที่วัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ความสำคัญมากนั่นก็คือ “ความเคารพผู้อื่น” นั่นเองครับ และสุดท้ายนี้นะครับเวลาที่ทุกท่านที่ไปญี่ปุ่นก็ลองทำการโค้งให้ถูกต้องดูนะครับ และหากกำลังหา sim internet ก็สามารถติดต่อทางเราได้เลยนะครับ
🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷
Internet SIM โดยจะมีระยะเวลา 4 วัน 7 วัน 10 วันและ 15 วันครับ ทุกท่านสามารถใช้งานได้แบบอุ่นใจไม่ต้องกลัว internet หมดเพราะตัว SIM เป็นแบบไม่จำกัดปริมาณ (Unlimited) ครับ โดยตัว SIM รองรับทั้ง iOS และ Android ไม่ว่าลูกค้าจะใช้งานโทรศัพท์รุ่นอะไรที่ใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวก็จะสามารถใช้งาน SIM นี้ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ
หากสนใจสามารถคลิกที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ