
JAPAN
ญี่ปุ่นกับวัฒนธรรมการขอโทษ : คำว่า “すみません” ที่สะท้อนหัวใจของคนญี่ปุ่น
สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องบอกว่าใครที่เคยเดินทางไปญี่ปุ่น น่าจะสังเกตเห็นได้ว่าคำว่า “すみません” (sumimasen) ถูกใช้บ่อยมาก ไม่ว่าจะในร้านอาหาร บนรถไฟ หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวันทั่วไป คนญี่ปุ่นพูดคำนี้ด้วยน้ำเสียงสุภาพแทบจะตลอดเวลา จนทำให้บางครั้งคนต่างชาติอาจสงสัยได้ว่า “ทำไมต้องขอโทษอะไรกันเยอะขนาดนั้น?” แต่เอาจริงๆแล้วการพูดคำว่า sumimasen มันเป็นการสะท้อนถึง “หัวใจของวัฒนธรรมญี่ปุ่น” ที่ให้ความสำคัญกับความเกรงใจและความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนอย่างลึกซึ้งครับ และในวันนี้ผมจะพาทุกท่านมารู้จักกับคำๆนี้ให้มากขึ้นครับ ว่าแล้วเราไปติดตามอ่านกันได้เลยครับ และหากท่านไหนอยากลองไปสัมผัสญี่ปุ่นสักครั้งแต่ยังไม่มี sim internet แบบ unlimited ใช้งานทำไมไม่ลองดูสินค้าของทางเราด้านล่างหละครับ แล้วท่านจะสามารถใช้งาน internet ได้อย่างไม่สะดุดอีกต่อไป
คำว่า “すみません” ไม่ได้แปลว่า “ขอโทษ” อย่างเดียวเท่านั้น
หลายๆท่านอาจจะรู้ และก็ยังมีอีกหลายๆท่านที่ยังไม่รู้ว่าคำว่า “すみません” ในภาษาญี่ปุ่น สามารถใช้ได้หลายสถานการณ์ครับ เช่น
– เมื่อต้องการ ขอโทษ (Excuse me / I’m sorry)
– เมื่อต้องการ ขอบคุณ (Thank you for your trouble)
– เมื่อต้องการ เรียกความสนใจ (Excuse me / ขอรบกวนหน่อย)
เช่น เวลาลูกค้ารับของจากพนักงานแล้วพูดว่า “すみません” จริงๆลูกค้าไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย แต่พูดเพื่อแสดงความเกรงใจที่ทำให้คนอื่นต้องลำบากเพื่อตัวเอง จึงเป็นการ “ขอโทษและขอบคุณ” ในเวลาเดียวกันครับ และนี่คือสิ่งที่เรียกว่า “文化のすみません” (วัฒนธรรมแห่งคำว่า sumimasen) สิ่งนี้มันไม่ใช่แค่คำพูดอย่างเดียว แต่เป็นเครื่องมือรักษาความกลมกลืนในสังคมญี่ปุ่นด้วยเช่นกันครับ
“ความเกรงใจ” คือหัวใจของการอยู่ร่วมกันในสังคมญี่ปุ่น
แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังการพูดคำขอโทษบ่อยๆคือสิ่งที่เรียกว่า “遠慮 (えんりょ / enryo)” สามารถแปลตรงตัวได้ว่า “ความเกรงใจ” หรือ “การไม่รบกวนผู้อื่น” ในสังคมญี่ปุ่นเองนั้น การทำให้คนอื่นรู้สึกไม่สบายใจถือเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงและไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับ ความกลมกลืน (和 / wa) หรือการอยู่ร่วมกันอย่างสงบครับ ดังนั้น การพูด “すみません” จึงเป็นเสมือนการยอมรับว่า “ฉันอาจจะสร้างความไม่สะดวกหรือความลำบากให้คุณ” แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ตาม เช่น เดินผ่านคนในที่แออัด หรือทำให้ใครต้องขยับตัวเพียงนิดเดียวเพื่อตนเองครับ
การขอโทษในญี่ปุ่นไม่ใช่เพียงแค่การใช้คำพูด
สำหรับการขอโทษในญี่ปุ่นนอกจากคำพูดแล้ว ท่าทางก็สำคัญมากเช่นกันครับ คนญี่ปุ่นจะทำ การโค้ง (おじぎ / Ojigi) เพื่อแสดงความจริงใจ ซึ่งระดับความลึกของการโค้งก็จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ
– โค้งเล็กน้อย (15°) : ใช้ในการทักทายหรือขอบคุณ
– โค้งระดับกลาง (30°) : ใช้ในการขอโทษในสถานการณ์ทั่วไป
– โค้งลึก (45° หรือมากกว่า) : ใช้ในกรณีขอโทษร้ายแรง
เช่น เวลามีข่าวที่บริษัทเรื่องบางอย่างทำผิดพลาด เราก็มักจะเห็นผู้บริหารออกมาโค้งขอโทษต่อหน้าสื่นักข่าวอย่างจริงจังมาก การทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงพิธีการที่พึงกระทำเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสัญลักษณ์ของ “ความรับผิดชอบ” ที่คนญี่ปุ่นยึดถือมากครับ
ความหมายอันลึกซึ้งของการ “ขอโทษก่อน”
ในสายตาคนต่างชาติเอง บางครั้งการขอโทษก่อนโดยที่ยังไม่รู้ว่าใครผิดอาจดูแปลกๆต่อความรู้สึกของตัวเอง แต่ในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นแล้ว การพูดว่า “すみません” ก่อนคือการรักษาความสัมพันธ์ยังคงดีต่อกัน และไม่ใช่การยอมแพ้ เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าความถูกผิดก็คือ “ความรู้สึกของอีกฝ่าย” ครับ สิ่งนี้คือแนวคิดที่ฝังรากลงลึกในสังคมญี่ปุ่นมามาเป็นเวลาอันยาวนาน นั่นก็คือการให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมากกว่าตัวเอง ไม่ว่าจะในที่ทำงาน โรงเรียน หรือครอบครัว คนญี่ปุ่นจะพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งด้วยการใช้คำขอโทษเป็นเครื่องมือในการทำให้ทุกอย่างจบอย่างราบรื่นที่สุดและยังเป็นการให้ใจกับอีกฝ่ายด้วยครับ
และเมื่อคำขอโทษกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว คำว่า “すみません” “ごめんなさい” หรือ “申し訳ありません” ไม่ได้เป็นแค่คำพูดติดปากเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่ช่วยให้สังคมญี่ปุ่นดำเนินไปอย่างสงบ เรียบร้อย และไม่เกิดความขัดแย้งกันครับ มันสะท้อนถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเข้าใจในผู้อื่น และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน สามารถบอกได้เลยว่า “การขอโทษ” มันคือ ศิลปะแห่งความสัมพันธ์ของคนญี่ปุ่น และสิ่งนี้เองที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศมารยาทมากที่สุดในโลกเลยทีเดียวครับ
ทุกท่านเห็นไหมครับว่าวัฒนธรรมการขอโทษของคนญี่ปุ่นไม่ได้เกิดจากความผิด แต่เกิดจาก “ความต้องการที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างราบรื่นและสงบ” เมื่อเราพูดว่า “すみません” เรากำลังส่งสารว่า “ฉันเห็นคุณ ฉันเคารพคุณ และฉันไม่อยากรบกวนคุณ” นั่นคือเสน่ห์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่สอนให้เรารู้ว่าการขอโทษไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่มันคือความอ่อนโยนที่เราควรจะมีให้กันและเสมอครับ
🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷
Internet SIM โดยจะมีระยะเวลา 4 วัน 7 วัน 10 วันและ 15 วันครับ ทุกท่านสามารถใช้งานได้แบบอุ่นใจไม่ต้องกลัว internet หมดเพราะตัว SIM เป็นแบบไม่จำกัดปริมาณ (Unlimited) ครับ โดยตัว SIM รองรับทั้ง iOS และ Android ไม่ว่าลูกค้าจะใช้งานโทรศัพท์รุ่นอะไรที่ใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวก็จะสามารถใช้งาน SIM นี้ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ
หากสนใจสามารถคลิกที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ